องคมนตรี ติดตามภารกิจกรมฝนหลวงฯ รุกแก้ฝุ่น PM2.5 ที่ จ.เพชรบุรี
12 ธันวาคม 2568 เวลา 07:13:00
9
เมื่อวันที่ 12 ธ.ค.68 พลอากาศเอก ชลิต พุกผาสุก องคมนตรี ในฐานะประธานกรรมการที่ปรึกษาผู้ทรงคุณวุฒิฝนหลวง เดินทางไปยังอาคารศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวงภาคใต้ตอนบน อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี เพื่อประชุมติดตามความก้าวหน้าภารกิจการดำเนินงานของกรมฝนหลวงและการบินเกษตร ประจำปีงบประมาณ 2569 โดยเฉพาะภารกิจเร่งด่วนในการบรรเทาปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM2.5) โดยมี ร้อยตำรวจโท ภพชนก ชลานุเคราะห์ ผู้ว่าราชการ จ.เพชรบุรี นายราเชน ศิลปะรายะ อธิบดีกรมฝนหลวงและการบินเกษตร นายแก้ว คงวงศ์ นายอำเภอชะอำ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุมและให้การต้อนรับ

สำหรับการดำเนินงานในปีงบประมาณ 2569 กรมฝนหลวงและการบินเกษตร ได้จัดทำแผนการดัดแปรสภาพอากาศเพื่อบรรเทาปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็กในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล ระหว่างเดือนธันวาคม 2568 - เดือนมีนาคม 2569 โดยได้เริ่มจัดตั้งหน่วยดัดแปรสภาพอากาศตั้งแต่วันที่ 1 ธ.ค.68 จำนวน 3 หน่วย ได้แก่ หน่วยปฏิบัติการฝนหลวง อ.หัวหิน จ.ประจวบฯ, หน่วยปฏิบัติการฝนหลวง จ.ระยอง และหน่วยปฏิบัติการฝนหลวง จ.นครสวรรค์
การปฏิบัติการครั้งนี้ใช้วิธีการ 3 เทคนิคหลัก ได้แก่ 1. เทคนิคการลดอุณหภูมิชั้นบรรยากาศผกผันด้วยการโปรยน้ำแข็งแห้งเพื่อระบายฝุ่นละออง 2. เทคนิคการก่อเมฆเพื่อดูดซับและระบายฝุ่นละออง และ 3. เทคนิคการเลี้ยงเมฆเพื่อดูดซับและระบายฝุ่นละออง ซึ่งผลการปฏิบัติการตั้งแต่วันที่ 1 ถึง 9 ธันวาคม 2568 ได้มีการขึ้นบินปฏิบัติการไปแล้ว 6 วัน รวม 35 เที่ยวบิน ส่งผลให้ค่าความเข้มข้นของฝุ่นละอองลดต่ำกว่าเกณฑ์มาตรฐาน ค่าดัชนีคุณภาพอากาศ (AQI) มีค่าเฉลี่ยลดลง และสามารถลดปริมาณฝุ่น PM2.5 ได้ถึงร้อยละ 80 ทำให้คุณภาพอากาศในพื้นที่เป้าหมายดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด

นอกจากภารกิจด้านฝุ่นละออง กรมฝนหลวงฯ ยังได้วางแผนปฏิบัติการฝนหลวงเพื่อบรรเทาปัญหาภัยแล้งในพื้นที่ภาคใต้สำหรับปี 2569 โดยเตรียมจัดตั้งหน่วยปฏิบัติการฝนหลวงหัวหิน ที่ ท่าอากาศยานหัวหิน จ.ประจวบฯ และหน่วยปฏิบัติการฝนหลวงสุราษฎร์ธานี ที่ สนามบินกองบิน 7 อ.พุนพิน จ.สุราษฎร์ธานี เพื่อให้ครอบคลุมพื้นที่รับผิดชอบ 20 จังหวัด ได้แก่ สมุทรปราการ สมุทรสาคร สมุทรสงคราม ราชบุรี เพชรบุรี ประจวบฯ ชุมพร ระนอง พังงา ภูเก็ต สุราษฎร์ธานี กระบี่ นครศรีธรรมราช ตรัง พัทลุง สตูล สงขลา ปัตตานี นราธิวาส และยะลา
ภายหลังการประชุม องคมนตรีได้เดินทางไปตรวจเยี่ยมการดำเนินงาน "โรงผลิตสารฝนหลวง (น้ำแข็งแห้ง)" ซึ่งถือเป็นแห่งแรกในประเทศไทย และเป็น 1 ใน 8 โรงผลิตฯ ที่ได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทานพระบรมราชานุญาตให้ดำเนินการก่อสร้างและทรงรับไว้เป็นโครงการตามพระราชดำริ เมื่อวันที่ 24 มี.ค.2568 ปัจจุบันดำเนินการก่อสร้างแล้วเสร็จสมบูรณ์

โดยโรงงานแห่งนี้มีศักยภาพในการผลิตน้ำแข็งแห้งเพื่อใช้ระบายฝุ่นละอองใต้ชั้นอุณหภูมิผกผันสู่ชั้นบรรยากาศด้านบนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยลดต้นทุน เพิ่มความคล่องตัวและความรวดเร็วในการปฏิบัติการ สนองพระราชปณิธานของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในการสืบสาน รักษา และต่อยอด แนวพระราชดำริฝนหลวงของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เพื่อบำบัดทุกข์บำรุงสุขและพัฒนาคุณภาพชีวิตของราษฎร
ในโอกาสนี้ องคมนตรี ยังได้ติดตามความก้าวหน้า "โครงการก่อสร้างพิพิธภัณฑ์พระบิดาแห่งฝนหลวง" ซึ่งจัดสร้างขึ้นเพื่อเป็นแหล่งเรียนรู้และจัดแสดงนิทรรศการถาวรเฉลิมพระเกียรติ เผยแพร่พระราชกรณียกิจด้านฝนหลวงที่สร้างคุณูปการแก่ประเทศชาติ โดยปัจจุบันการก่อสร้างมีความคืบหน้าไปแล้วกว่าร้อยละ 95

ประจวบฯ เปิดตัว "น้องถุงแป้ง" อดีตผู้รักษาประตูโปโลน้ำทีมชาติไทย ดีกรีเหรียญทองซีเกมส์ 2 สมัย เข้าชิงชัย นางสาวไทย 2569
14
ข่าวประชาสัมพันธ์

ศาลอาญา สั่งคุก 2 ปีไม่รอลงอาญา "จิรัฏฐ์ ทองสุวรรณ์"อดีตสส.ประชาชน ใช้เอกสารใบสด.43 ปลอม
3


รอดได้ไง ?!? หนุ่มเมียนมาปวดท้องหนัก ใช้มีดแทงตัวเองสาหัส นอนเจ็บข้ามคืนก่อนลูกสาวพบแจ้งกู้ภัยช่วย





