4

อาชญากรรม

วันที่ 17 ธ.ค. 68 สืบเนื่องจาก เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สอท.1 ได้สืบสวนพบการลักลอบซื้อขายอาวุธปืนผิดกฎหมายในกลุ่มเฟซบุ๊กกลุ่มหนึ่ง ซึ่งเปิดเป็นกลุ่มสาธารณะ มีสมาชิกกว่า 25,000 คน เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้แฝงตัวเข้าไปในกลุ่มดังกล่าวเพื่อสืบสวนหาข่าว จากนั้นได้ทดลองติดต่อขอซื้ออาวุธปืนจากเจ้าของเฟซบุ๊กรายหนึ่งในกลุ่ม หลังจากเจรจา เจ้าตัวได้ตกลงขายอาวุธปืนยาวลูกกรดไทยประดิษฐ์ขนาด .22 ให้จำนวน 1 กระบอก ในราคา 15,000 บาท และนัดส่งมอบของกัน ณ บริเวณที่ทำการชุมชนแห่งหนึ่ง หมู่ที่ 9 ต.ทุ่งสุขลา อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี

ต่อมา พ.ต.อ.กฤติน ตปสีโล ผกก.วิเคราะห์ข่าวฯ บก.สอท.1 ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจในสังกัดวางแผนจับกุมกรณีดังกล่าว โดย พ.ต.ท.นพดล บุตรวงษ์ สว.กก.วิเคราะห์ข่าวฯ บก.สอท.1 ได้นำกำลังชุดสืบสวนลงพื้นที่และวางกำลังตามจุดต่างๆ บริเวณนัดหมาย

เมื่อถึงเวลานัดหมาย ได้มีรถยนต์กระบะอีซูซุ ดีแม็กซ์ สีขาวแต่งซิ่งคันหนึ่งขับเข้ามาจอดยังจุดนัดหมาย โดยมีนายพิชิตชัย อายุ 32 ปี ชาวนครราชสีมา เป็นผู้ขับขี่ เจ้าหน้าที่ตำรวจที่วางกำลังอยู่โดยรอบจึงได้แสดงตัวเข้าตรวจค้น ผลการตรวจค้นพบของกลางเป็น อาวุธปืนยาวลูกกรดไทยประดิษฐ์ ขนาด .22 จำนวน 1 กระบอก, ซองบรรจุกระสุนปืน จำนวน 1 อัน, กระสุนปืนขนาด .22 จำนวน 33 นัด ถูกห่อด้วยผ้าห่มวางอยู่ท้ายรถกระบะคันดังกล่าว นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ยังได้ตรวจยึดโทรศัพท์มือถือ ยี่ห้อ TECNO SPARK สีขาว จำนวน 1 เครื่อง ซึ่งนายพิชิตชัยใช้ในการติดต่อซื้อขายอาวุธปืนอีกด้วย

จากการสอบถามผู้ถูกจับ เบื้องต้นนายพิชิตชัยฯ รับว่า อาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนที่เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจยึดได้นั้นเป็นของตนจริง โดยซื้อมาจากเพื่อนในกลุ่มเฟซบุ๊กปืนไทยประดิษฐ์ จากนั้นนำมาขายต่อเพื่อทำกำไรเพื่อเป็นการหารายได้อีกช่องทางหนึ่ง นอกเหนือจากการทำงานประจำเป็นช่างโรงงาน

เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้แจ้งข้อกล่าวหา “มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตจากนายทะเบียน” และ “พาอาวุธปืนติดตัวไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะ โดยไม่ได้รับอนุญาตจากนายทะเบียน” ตรวจยึดของกลางทั้งหมดพร้อมนำตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย

โดยเบื้องต้น เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตรวจพบข้อมูลสำคัญจากกรณีนี้ ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างเร่งสืบสวนขยายผลไปยังผู้กระทำผิดรายอื่นๆ เพื่อนำตัวผู้กระความทำผิดและตรวจยึดของกลางที่อาจใช้ในการกระทำผิดมาดำเนินการตามกฎหมายอย่างเด็ดขาดต่อไป.

ทีรมข่าวอาชญากรรม