8

อาชญากรรม

เมื่อวันที่ 21 ธันวาคม 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานจาก จ.อุดรธานี ว่า ตำรวจไซเบอร์ ตัดวงจรแก๊งคอลเซ็นเตอร์รวบเครือข่าย “บัญชีม้าภาคอีสาน” ทางออนไลน์ ได้ผู้ต้องหา 4 ราย เป็นนายหน้าจัดหา 1 ราย เจ้าของบัญชี 3 ราย ยึดโทรศัพท์มือถือ 4 เครื่อง ที่ผูกแอปพลิเคชันธนาคารพร้อมใช้อีก 10 บัญชี พร้อมเงินสดล่อซื้อ จำนวน 150,000 บาท

สืบเนื่องจาก พล.ต.ท.สุรพล เปรมบุตร ผบช.สอท ได้รับแจ้งจากสายลับว่ามีขบวนการการลักลอบซื้อ ขายบัญชีธนาคาร “บัญชีม้า” ผ่านสื่อสังคมออนไลน์ จังสั่งการให้ เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.1 บก.สอท.3 โดยมี พ.ต.ท.ธีรศักดิ์ นราศรี รอง ผกก.1 บก.สอท.3 เป็นหัวหน้าชุดทำการสืบสวนผ่านช่องทางออนไลน์ จนทราบว่ามีผู้ลักลอบจำหน่ายบัญชีธนาคารพร้อมผูกแอปธนาคารพร้อมโทรศัพท์มือถือพร้อมใช้งาน จึงได้ให้สายลับทำการติดต่อล่อซื้อ

กระทั่งมีการนัดหมายส่งมอบของที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งในตัวเมืองอุดรธานี นัดหมายกันช่วงค่ำของวันที่ 20 ธันวาคม 2568 จนประมาณ 21.10 น. ได้พบหญิงวัยกลางคนสองคน อายุประมาณ 25 – 30 ปี สวมเสื้อสีดำ กางเกงสีดำ เดินเข้ามาหาสายลับที่ร้านอาหารดังกล่าว เมื่อมาถึงได้นำโทรศัพท์มือถือ 4 เครื่อง พร้อมให้สายลับตรวจสอบแอปพลิเคชันธนาคาร 10 บัญชี เมื่อสายลับตรวจสอบบัญชีเรียบร้อยแล้ว พบทั้ง 10 บัญชี เป็นบัญชีธนาคารใช้งานได้ปกติ

หลังจากสายลับได้จ่ายเงินค่าดำเนินการ 150,000 บาท และรับมอบโทรศัพท์มือถือ 4 เครื่อง จึงได้ส่งสัญญานให้เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม เข้าจับกุมหญิงดังกล่าว ทราบชื่อต่อมาคือ น.ส.วิชุดา (สงวนนามสกุล) อายุ 28 ปี ผู้นำโทรศัพท์พร้อมแอปพลิเคชันธนาคารมาส่ง และ น.ส.สุพรรณดา (สงวนนามสกุล) อายุ 31 ปี เจ้าของบัญชีธนาคาร ไม่นานก็มีชายอีก 2 คน ที่เป็นเจ้าของบัญชีธนาคาร มารอรับเงินค่าจำหน่ายบัญชีอีกสองราย คือ นายธีรพัฒน์ (สงวนนามสกุล) อายุ 31 ปี และนายอภิรักษ์ (สงวนนามสกุล) อายุ 21 ปี

ตำรวจจึงทำการตรวจยึดของกลางทั้งหมด พร้อมแจ้งข้อกล่าวหา “ร่วมกันเป็นธุระจัดหา โฆษณา หรือไขข่าวโดยประการใด ๆ เพื่อให้มีการซื้อหรือขายเลขหมายโทรศัพท์สำหรับบริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ ซึ่งลงทะเบียนผู้ใช้บริการในนาม ของบุคคลหนึ่งบุคคลใดแล้ว แต่ไม่สามารถระบุตัวผู้ใช้บริการได้ ทั้งนี้ โดยประการที่รู้หรือควรรู้ว่าจะนำไปใช้ในการกระทำความผิด เกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยีหรือความผิดทางอาญาอื่นใด

และเป็นธุระจัดหา โฆษณา หรือไขข่าวโดยประการใด ๆ เพื่อให้มีการซื้อขาย ให้เช่า หรือให้ยืม บัญชีเงินฝาก บัตรอิเล็กทรอนิกส์ หรือบัญชีเงินอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อใช้ในการ กระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยีหรือความผิดทางอาญาอื่นใด” นำส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองอุดรธานี ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป.