ดราม่าหนี้นอกระบบ สามีเข้าใจผิดไม่มีหนี้ แต่แฟนสาวมุบมิบ เจ้าหนี้เพียบ ทวงฉ่ำ
21 พฤศจิกายน 2568 เวลา 06:00:00
4
จากกรณีสามี–ภรรยาชาวปากเกร็ดร้องความเป็นธรรม หลังกู้เงินนอกระบบ 600,000 บาท ดอกเบี้ยร้อยละ 20 และชำระคืนครบทั้งต้น–ดอกรวมกว่า 1 ล้านบาทตั้งแต่เดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา แต่กลับถูกกลุ่มชายฉกรรจ์ 10–15 คน ซึ่งเป็นลูกน้องนายทุนเงินกู้ บุกมารังควานถึงร้านหมูกระทะ ปล่อยลมยาง ข่มขู่ทำร้าย และตามติดทุกวัน แม้ไม่มีหนี้ค้าง จนทั้งคู่เกิดความเครียดและหวาดกลัว ต้องไปร้อง “จ่าคิงส์ แตงทิม” ให้ช่วยพาเข้าพบตำรวจกองปราบเพื่อหาทางคุ้มครอง ขณะผู้เชี่ยวชาญด้านบัญชีระบุพฤติกรรมของกลุ่มผู้ก่อเหตุเข้าข่ายผิดกฎหมายหลายข้อหา ทั้งทวงหนี้ซ้ำซ้อน เรียกดอกเบี้ยเกินกฎหมาย ข่มขู่เอาชีวิต และทำลายทรัพย์สิน ส่วนทางตำรวจ สภ.ปากเกร็ด ยืนยันว่าไม่ได้นิ่งนอนใจ และอยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อดำเนินคดี

จากการสอบสวนพบว่า ผู้แจ้งคดีในครั้งแรกไม่ทราบว่า บุคคลที่บุกเข้ามาคือเจ้าหนี้เงินกู้ของแฟนสาว เพราะฝ่ายหญิงโกหกว่า “เคลียร์หนี้หมดแล้ว” ทำให้ฝ่ายชายเข้าใจผิดว่าไม่ควรมีใครมาทวงหนี้อีก จึงรีบเข้ามาแจ้งความไว้ที่ สภ.ปากเกร็ด แต่เมื่อเจ้าหน้าที่ติดตามและนำผู้ก่อเหตุมาให้ปากคำ จึงพบข้อเท็จจริงว่าแฟนสาวยังมีหนี้นอกระบบอีกหลายรายที่ยังไม่ได้ชำระ และเป็นเหตุให้ลูกหนี้–เจ้าหนี้เกิดความเข้าใจผิดกัน กระทั่งนำไปสู่เหตุบุกคุกคามและการข่มขู่ดังกล่าว สุดท้ายทั้งสองฝ่ายได้พูดคุยกันโดยมีตำรวจเป็นคนกลาง จนแฟนสาวยอมรับความจริงและนำเงินไปชำระให้เจ้าหนี้ทั้งหมดตามยอดค้าง

จากการสอบสวนพบว่า ผู้แจ้งคดีในครั้งแรกไม่ทราบว่า บุคคลที่บุกเข้ามาคือเจ้าหนี้เงินกู้ของแฟนสาว เพราะฝ่ายหญิงโกหกว่า “เคลียร์หนี้หมดแล้ว” ทำให้ฝ่ายชายเข้าใจผิดว่าไม่ควรมีใครมาทวงหนี้อีก จึงรีบเข้ามาแจ้งความไว้ที่ สภ.ปากเกร็ด แต่เมื่อเจ้าหน้าที่ติดตามและนำผู้ก่อเหตุมาให้ปากคำ จึงพบข้อเท็จจริงว่าแฟนสาวยังมีหนี้นอกระบบอีกหลายรายที่ยังไม่ได้ชำระ และเป็นเหตุให้ลูกหนี้–เจ้าหนี้เกิดความเข้าใจผิดกัน กระทั่งนำไปสู่เหตุบุกคุกคามและการข่มขู่ดังกล่าว สุดท้ายทั้งสองฝ่ายได้พูดคุยกันโดยมีตำรวจเป็นคนกลาง จนแฟนสาวยอมรับความจริงและนำเงินไปชำระให้เจ้าหนี้ทั้งหมดตามยอดค้าง

ด้าน น.ส.บี ผู้เสียหายหญิง เปิดเผยด้วยน้ำเสียงสั่นเครือว่า ตนต้องขอโทษเจ้าหน้าที่ต่อเหตุการณ์ทั้งหมด เนื่องจากปิดบังเรื่องหนี้ที่ยังไม่ได้ชำระ และวันนี้ได้นำเงินมาคืนให้ครบแล้ว พร้อมยอมรับว่ายังมีหนี้นอกระบบอีกหลายเจ้าที่ติดค้าง ซึ่งได้ให้ข้อมูลแก่ตำรวจเพื่อช่วยตรวจสอบและจัดการอย่างถูกต้อง
ผู้สื่อข่าวพยายามสอบถาม นายเอ ถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แต่เจ้าตัวปฏิเสธไม่ให้สัมภาษณ์ โดยยืนยันจะให้การกับเจ้าหน้าที่ตำรวจเท่านั้น
เบื้องต้นตำรวจ สภ.ปากเกร็ด ได้แจ้งข้อกล่าวหา นายเอ รวม 4 ข้อหา ได้แก่ 1. บุกรุก 2.ทำให้เสียทรัพย์ 3.ข่มขู่ทำให้ผู้อื่นตกใจกลัว 4.เรียกดอกเบี้ยเกินอัตราที่กฎหมายกำหนด พร้อมนำตัวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมาย และจะเร่งขยายผลถึงเครือข่ายเงินกู้นอกระบบที่เกี่ยวข้องทั้งหมด เพื่อคุ้มครองความปลอดภัยของผู้เสียหาย รวมถึงประชาชนในพื้นที่
ทั้งนี้ สภ.ปากเกร็ดฝากเตือนประชาชนและผู้ร้องเรียนว่า ก่อนนำเรื่องมาร้องทุกข์ควรตรวจสอบข้อเท็จจริงให้รอบด้านก่อนเสมอ และต้องแจ้งทางตำรวจให้ครบถ้วนทุกรายละเอียด โดยยืนยันว่าหากมีเหตุเดือดร้อนพร้อมรับเรื่องและดำเนินการให้เต็มที่ในทุกกรณี

คลินิกเกษตรในพระราชานุเคราะห์ฯ เคลื่อนที่ให้บริการประชา ชน อำเภอศรีนครินทร์ จังหวัดพัทลุง
ข่าวประชาสัมพันธ์

กาญจนบุรี - ปล่อยแถวระดมกวาดล้างอาชญากรรมในวันคริสต์มาสและเทศกาลปีใหม่ 2569
2
อาชญากรรม

ยะลา - รวมพลังบูรณะภาพวาดสตรีทอาร์ต 'คิงภูมิพล' แสดงออกถึงความจงรักภักดีผ่านงานศิลปะ
ศิลปวัฒธรรม-บันเทิง
6

ศาลอาญา สั่งคุก 2 ปีไม่รอลงอาญา "จิรัฏฐ์ ทองสุวรรณ์"อดีตสส.ประชาชน ใช้เอกสารใบสด.43 ปลอม
3
การเมือง-การเมืองท้องถิ่น

𝗖𝗵𝗮𝗻𝗴 𝗖𝗹𝗮𝘀𝘀𝗶𝗰 𝗖𝗮𝗿 𝗥𝗲𝘃𝗶𝘃𝗮𝗹 𝟮𝟬𝟮𝟱 ปิดฉากประทับใจ ตอกย้ำภารกิจ สนามช้าง เป็นมากกว่าสนามแข่ง




