'บิ๊กโจ๊ก' ดับเครื่องชน ไม่มีแผ่ว !! ฟ้องเพิ่ม 3 ผู้บริหารศาลปกครองสูงสุด คดี ม.157
1 ธันวาคม 2568 เวลา 09:45:00
4
“บิ๊กโจ๊ก” ฟ้องเพิ่ม 3 ผู้บริหารระดับสูงของศาลปกครองสูงสุด หลังพบพฤติการณ์สนับสนุนจงใจกลั่นแกล้งคดีในศาลปกครองสูงสุด เกรงไม่ได้รับความเป็นธรรม
วันนี้ (1 ธ.ค.68) ที่ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล อดีตรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เดินทางมายื่นฟ้องผู้บริหารในศาลปกครองสูงสุด ฐานร่วมกันเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใดหรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ตามมาตรา 157 แห่งประมวลกฎหมายอาญา // ประกอบมาตรา 172 แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2561 ฐานร่วมกันเป็นเจ้าพนักงานของรัฐ ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติอย่างใดในตำแหน่งหรือหน้าที่ หรือใช้อำนาจในตำแหน่งหรือหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวถึงเหตุผลของการฟ้องดำเนินคดีต่อศาลว่า เนื่องจากก่อนหน้านี้ตนได้ยื่นฟ้องผู้บริหารระดับสูงในศาลปกครองสูงสุดต่อศาลอาญาคดีทุจริตฯ ตามที่ปรากฏคลิปเสียงพยายามที่จะล้มคดีของตนในศาลปกครองสูงสุด ซึ่งถือเป็นการแทรกแซงองค์คณะตุลาการในคดี
แต่ปรากฏว่า กลับมีผู้บริหารระดับสูงของศาลปกครองอีก 2 ราย ได้แก่รองประธานศาลปกครองสูงสุด 1 คน และระดับประธานแผนกคดีอีก 1 คน ได้มีพฤติกรรมให้ข้าราชการในศาลปกครองสูงสุดส่งข้อความให้กำลังใจบุคคลที่ตนฟ้องร้อง ในทำนองว่ารู้เห็นเป็นใจและให้การสนับสนุนพฤติกรรมของผู้บริหารศาลปกครองสูงสุดที่มีข้อพิพาทกับตน

ขณะเดียวกัน ยังปรากฏพฤติการณ์ของรองประธานศาลปกครองสูงสุด ที่ตนยื่นฟ้องก่อนหน้านี้ แต่ยังคงใช้อำนาจในการโยกย้ายแต่งตั้งตุลาการที่เกี่ยวข้องในคดีของตน ซึ่งตอนนี้ถือว่าท่านเป็นผู้ที่มีกรณีพิพาทในคดีอาญาของตน จึงทำให้ตนเกรงว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรม
ด้วยเหตุนี้ ตนจึงเดินทางมายื่นฟ้องต่อศาลอาญาคดีทุจริตฯ ในวันนี้ เพื่อเอาผิดเพิ่มเติมกับผู้บริหารศาลปกครองสูงสุด แบ่งเป็นระดับรองประธานศาลปกครองสูงสุด 2 คน (ฟ้องใหม่ 1 และฟ้องคนเดิม 1) และระดับประธานแผนกคดี 1 คน โดยสรุปรวมแล้วมีผู้บริหารศาลปกครองสูงสุด 6 คนที่ตนดำเนินการฟ้องร้องดำเนินคดีต่อศาลอาญาคดีทุจริตฯ

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ยืนยันว่า ตนยังให้ความเชื่อมั่นว่า ศาลปกครองสูงสุดจะเมตตาให้ความเป็นธรรมในคดีที่ตนยื่นฟ้องร้องเกี่ยวกับคำสั่งให้ออกจากราชการและไล่ออกจากราชการโดยมิชอบ และยังมั่นใจว่าศาลปกครอง สูงสุดยังมีคนดีอยู่อีกหลายคน ซึ่งหลังจากนี้ตนก็จะไปติดตามเรื่องกับคณะกรรมการตุลาการศาลปกครอง หรือ ก.ศป. ที่ตนคอยร้องเรียนจริยธรรมของผู้บริหารศาลปกครองสูงสุดที่มีข้อพิพาทกับตน ซึ่งตนร้องเรียนมากกว่า 2 เดือนแล้ว แต่ไม่มีความคืบหน้า
อย่างไรก็ตาม ตนมองว่า ในส่วนคดีที่ตนฟ้องร้องศาลปกครองสูงสุดก่อนหน้านี้นั้น ก็ต้องแยกเป็นอีกประเด็น แต่ในวันนี้ที่ตนต้องมาดำเนินการฟ้องร้อง เพราะเป็นการจงใจกระทำการหรือใช้อำนาจในทางมิชอบอันเป็นการกลั่นแกล้งและกระทบสิทธิ์ของตน
ทั้งนี้ ศาลนัดตรวจคำฟ้องในวันที่ 23 ธันวาคม 2568 เวลา 09:00 น.


