หนุ่มเก็บของเก่าถูกย่างสดดับสยองกลางเพิงพัก คาดเกิดจากสายชาร์จ
18 พฤศจิกายน 2568 เวลา 02:45:00
3
เมื่อเวลา 19.30 น. วันที่ 17 พ.ย. 68 เจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.ไทรน้อย ได้รับแจ้งเหตุเพลิงไหม้เพิงพักหลังร้านรับซื้อของเก่า มีผู้เสียชีวิต 1 ราย เหตุเกิดบริเวณร้านรับซื้อของเก่าไม่มีเลขที่ ต.ไทรใหญ่ อ.ไทรน้อย จ.นนทบุรี จึงพร้อมด้วยอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู และทีมแพทย์จากสถาบันนิติวิทยาศาสตร์รีบรุดตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุเป็นร้านรับซื้อของเก่า ซึ่งมีพื้นที่ทั้งหมดประมาณ 1 ไร่ บริเวณเพิงพักคนงานหลังร้าน พบผู้เสียชีวิต ทราบชื่อคือนายวุฒิพงศ์ อริกุล อายุ 44 ปี ชาวจ.อุบลราชธานี ซึ่งเป็นลูกชายเจ้าของร้านรับซื้อของเก่า ถูกไฟคลอกดับในกองเพลิง สภาพศพนอนหงาย ร่างไหม้เกรียม ภายในห้องพักบริเวณที่นอนถูกเพลิงไหม้วอดทั้งหมด

นางคำตัน อริกุล อายุ 61 ปี แม่ผู้เสียชีวิต กล่าวว่า ตนนั่งห่อแหนมอยู่หน้าร้าน และลูกสาวเรียกตนให้หันมาดูด้านหลังว่ามีควันอะไร ตนเข้าใจว่าควันในครัว และคิดว่าลูกชายเผาขยะด้านหลังร้าน เพราะปกติจะเผาเป็นประจำ ตนจึงหันก ลับมาห่อแหนมต่อ ซักพักได้ยินเสียงระเบิด น้องสาวกับน้องเขยจึงรีบวิ่งไปดู ตนจะเข้าไปในบ้านเพื่อเอาตัวลูกชายออกมาแต่เข้าไม่ได้ และไม่ได้ยินเสียงลูกชายร้องขอความช่วยเหลือ ลูกเขยจึงรีบดึงตัวของตนออกมาและรีบสาดน้ำ ตนพยายามมองหาลูกว่าอยู่ในบ้านหรือไม่แต่ก็ไม่เห็น

ลูกชายตนรูปร่างท้วม ไม่ค่อยสบาย มีโรคประจำตัวเป็นโรคหัวใจ บางวันก็ออกมาช่วยงานแต่ถ้าวันไหนรู้สึกเหนื่อยก็จะไม่ออกมา วันนี้ก็ไม่ได้ออกมาทำงาน และก็ไม่ได้ออกมากินข้าว ตอนเกิดเหตุเพลิงไหม้ซึ่งห้องไม่ได้ล็อคแต่ไม่รู้ทำไมถึงไม่หนีออกมา ตนคาดว่าน่าจะเกิดเหตุจากไฟฟ้าลัดวงจร เพราะว่าลูกชายเล่นโทรศัพท์มือถือทั้งวันเพื่อเล่นสล็อต และคาดว่าน่าจะชาร์จแบตไว้ ตนไม่รู้ว่าเขาติดการพนันหรือไม่แต่เล่นทั้งวัน ตอนนี้รู้สึกเสียใจร้องไห้จนไม่มีน้ำตา ไม่รู้จะอยู่ได้อีกนานมั้ย เพราะตนก็มีโรคประจำตัว ซึ่งตนมีลูกทั้งหมด 3 คน ผู้เสียชีวิตคือลูกชายคนโต

จากการสอบถามข้อมูลคนงานที่เห็นเหตุการณ์ เล่าว่า เมื่อช่วงเวลาประมาณ 1 ทุ่ม คนงานนั่งกินข้าวกันอยู่หน้าร้าน เห็นไฟติดๆดับๆที่เพิงพักคนงานหลังร้าน และเบรกเกอร์ตัด ก่อนจะหันไปเห็นกลุ่มควันที่เพิงพักหลังร้าน จึงเอาน้ำมาช่วยกันดับ ใช้เวลาประมาณ 5 นาที ก่อนจะพบผู้เสียชีวิตภายในเพิงพักหลังดังกล่าว คาดไฟฟ้าลัดวงจร
เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ระหว่างตรวจสอบพยานหลักฐานในที่เกิดเหตุ และกล้องวงจรปิดบริเวณใกล้เคียงเพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงต่อไป










