อรอาภาฯรองผู้ว่าฯ.เมืองลุ่มภู จับเคี่ยวเกี่ยวก้อย เกษตรหนองบัว เพื่อผลิตข้าวพรหมจรรย์ที่แปลกใหม่
1 พฤศจิกายน 2568 เวลา 11:00:00
1
มื่อช่วงค่ำวันที่ 31 ตุลาคม 2568 ที่ศูนย์จัดการศัตรูพืชชุมชนตำบลฝั่งแดง บ้านสุขสำราญ ตำบลฝั่งแดง อำเภอนากลางจังหวัดหนองบัวลำภู ของนายปรีชา วุฒิสาร ประธานกลุ่มวิสาหกิจชุมชนตำบลฝั่งแดงบ้านสุขสำราญ สำนักงานเกษตรจังหวัดหนองบัวลำภู ร่วมกับมหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา และมหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี พร้อมเกษตรและสหกรณ์จังหวัด พลังงานจังหวัด ผอ.สวท.หนองบัวลำภู และผู้แทนหัวหน้าส่วนราชการในระดับจังหวัด อำเภอ ผู้นำชุมชนและเกษตรกรในพื้นที่ ร่วมกันเกี่ยวข้าวใต้แสงจันทร์ โดยมีนางสาวอรอาภา โล่ห์วีระ รองผู้ว่าราชการจังหวัดหนองบัวลำภู เป็นประธานเปิดงานพร้อมจับเคี่ยวเกี่ยวข้าวใต้แสงจันทร์ซึ่งเป็นยุทธวิธีของโครงการวิจัยสู่ไร่นาที่นำมาต่อยอด เพื่อการวิจัยแปรรูป ข้าวหอมมะลิระยะเม่า จะทำให้ได้ทั้งคุณภาพและเพิ่มประสิทธิภาพในการผลิต พร้อมถ่ายทอดองค์ความรู้ บรรยายและฝึกปฏิบัติ สนับสนุนเครื่องนึ่งข้าวฮาง ที่ได้มาตรฐาน ขนาดบรรจุ 60 - 80 กิโลกรัม พร้อมบรรจุภัณฑ์ เพื่อผลิตข้าวพรหมจรรย์ ชั้นพรีเมี่ยม ขายได้กิโลกรัมละ 300 บาท

นายอำพน ศิริคำ เกษตรจังหวัดหนองบัวลำภู กล่าวถึงกิจกรรมดังกล่าว ในปีงบประมาณ 2569 จังหวัดหนองบัวลำภู ได้อนุมัติงบประมาณพัฒนาจังหวัด เพื่ออบรม การผลิตข้าวพรหมจรรย์ จำนวน 210 ราย (อำเภอนากลาง 2รุ่นๆละ30ราย อีก5อำเภอๆละ30ราย) โดยจะเริ่มดำเนินการตั้งแต่ 3 พฤศจิกายน 2568 เป็นต้นไป ซึ่งข้าวหอมมรกต หรือข้าวพรหมจรรย์ เป็นการเก็บเกี่ยวข้าวในระยะน้ำนม หรือหลังตั้งท้องประมาณ 7 - 10 วัน ซึ่งเป็นระยะที่เมล็ดยังอ่อน มีบางส่วนยังไม่แข็งตัวแล้วนำมาผ่านกระบวนการผลิตแบบข้าวฮาง พร้อมกับใช้เทคนิคในการเก็บเกี่ยวในช่วงแดดร่มลมตก หรือช่วงเวลากลางคืนจนถึงเช้าตรู่ก่อนพระอาทิตย์ขึ้น ทั้งนี้เพื่อคงคุณค่าทางโภชนาการให้มากที่สุด คงความหอม และสีเขียวมรกต ของข้าวระยะเม่า และจากการศึกษาพบว่า ข้าวหอมมรกตมีสารโฟเลตในระดับที่สูง จึงเหมาะอย่างยิ่งสำหรับสตรีมีครรภ์

โดยในวันเดียวกันตั้งแต่เวลา 09.00 น.เป็นต้นมา สำนักงานเกษตรจังหวัดหนองบัวลำภู ร่วมกับมหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา และมหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี จัดฝึกอบรมถ่ายทอดความรู้ กระบวนการผลิต ข้าวพรหมจรรย์ (ข้าวหอมมรกต) ทั้งการบรรยาย และฝึกปฏิบัติแก่เกษตรกรเป้าหมาย จำนวน 2 กลุ่ม ได้แก่ วิสาหกิจชุมชนข้าวฮางบ้านสุขสำราญ ตำบลฝั่งแดง และกลุ่มแปลงใหญ่ข้าวตำบลอุทัยสวรรค์ อำเภอนากลาง รวมจำนวน 80 คน

ทั้งนี้เพื่อเป็นการนำโครงการวิจัยมาต่อยอด งานวิจัยสู่ไร่นา เพื่อการวิจัยแปรรูปข้าวหอมมะลิระยะเม่า จะทำให้ได้ทั้งคุณภาพและเพิ่มประสิทธิภาพในการผลิตของการผลิตข้าวพรหมจรรย์ ที่ต้องเก็บเกี่ยวในห้วงเวลาที่ไม่มีแสงแดด เพื่อคงคุณค่าทางโภชนาการ คงความหอมและสีเขียวมรกตของข้าวระยะเม่า ซึ่งการผลิตข้าวพรหมจรรย์ จึงเป็นอีกแนวทางหนึ่งในการเพิ่มมูลค่าผลผลิตทางการเกษตรที่ราคาตกต่ำให้ได้ราคาสูง ที่จังหวัดอื่นๆซึ่งไม่ได้ให้ความสำคัญ ในการยกระดับรายได้ให้กับเกษตรกร ขณะที่จังหวัดหนองบัวลำภู มุ่งพัฒนาและต่อยอดให้สอดรับกับวิสัยทัศน์จังหวัดหนองบัวลำภู ที่ว่า" เกษตรเพิ่มมูลค่า เมืองผ้า น่าอยู่น่าเที่ยว" เกษตรจังหวัดหนองบัวลำภู กล่าวในที่สุด
สุภัชรกานต์ แก้วสิงห์ /ใบเฟิน ศรีวิสุทธิชัย รายงานข่าวจากจังหวัดหนองบัวลำภู











