ชาวบ้านผวา! โดรนปริศนา 8 ลำ บินว่อนหมู่บ้านชายแดน เจ้าอาวาสวัดดัง เผยเสียงปืนใหญ่ดังสนั่นทั้งวันทั้งคืน
23 ธันวาคม 2568 เวลา 04:22:00
3
ศรีสะเกษ - ชาวบ้านผวา! โดรนปริศนา 8 ลำ บินว่อนหมู่บ้านชายแดน ขณะที่เจ้าอาวาสวัดดัง เผยเสียงปืนใหญ่ดังสนั่นทั้งวันทั้งคืนจนหลังคาสังกะสีสะเทือน-กระจกร้าว
เมื่อวันที่ 23 ธ.ค. 2568 ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่หมู่บ้านทับทิมสยาม 07 ชายแดนไทย-กัมพูชา ต.บักดอง อ.ขุนหาญ จ.ศรีสะเกษ ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ก่อนหน้านี้ทาง อ.ขุนหาญ ได้มีการสั่งอพยพชาวบ้านออกจากพื้นที่ไปยังศูนย์พักพิงชั่วคราว จำนวน 4 ตำบล ได้แก่ ต.บักดอง ต.ห้วยจันทร์ ต.กันทรอม และต.พราน ตั้งแต่วันที่ 15 ธ.ค. 2568 และชาวบ้านบางส่วนได้อพยพออกจากพื้นที่ไปก่อนหน้านี้แล้ว ล่าสุดชาวบ้านเริ่มทยอยกลับเข้ามายังพื้นที่แล้วบางส่วน เนื่องจากจากบ้านไปนานติดต่อกันหลายวัน จำเป็นต้องประกอบอาชีพ หาเงินเลี้ยงครอบครัว เลี้ยงสัตว์ และทำการเกษตร เช่นกรีดยาง ประกอบกันพื้นที่บริเวณดังกล่าวยังไม่มีการสู้รบหรือการปะทะกันเกิดขึ้น และยังไม่มีกระสุนตกในพื้นที่ แต่ก็ต้องอยู่อย่างระมัดระวัง ใช้ชีวิตใกล้หลุมบังเกอร์เพื่อความปลอดภัย

นางสายสมร พาบุตร ผู้ใหญ่บ้านทับทิมสยาม 07 หมู่ 15 ต.บักดอง กล่าวว่า ตอนนี้สถานการณ์ในพื้นที่ของหมู่บ้านทับทิมสยาม 07 ซึ่งเป็นหมู่บ้านที่อยู่ติดแนวเขตชายแดนไทย-กัมพูชา หลังทางเกิดเหตุปะทะ เมื่อวันที่ 7 ธ.ค. 68 และวันที่ 15 ธ.ค. 68 ทางอำเภอได้ออกคำสั่งให้ชาวบ้านอพยพออกจากพื้นที่ 100 เปอร์เซ็น คงเหลืออยู่เฉพาะเจ้าหน้าที่ ชรบ. จำนวน 15 นาย เราก็พากันมาอยู่ที่หลุมบังเกอร์ นำมุ้ง นำเต้นท์ ผ้าห่ม หมอน ที่นอน มานอนรวมกันในหลุมหลบภัยทุกคืน
พอตื่นเช้ามาเราต้องแบ่งหน้าที่กัน คนนี้ต้องไปเอาน้ำ เอาฟาง ให้อาหารวัว ควาย อีกคนไปให้อาหารเลี้ยงหมู เลี้ยงเป็ด เลี้ยงไก่ แทนชาวบ้านที่อพยพไป แล้วก็ต้องมาหุงข้าวกินรวมกัน แต่ด้วยชาวบ้านบางคนอพยพไปตั้งแต่วันแรกที่มีการปะทะ จนถึงตอนนี้ก็นานประมาณ 12-13 วัน แล้ว ชาวบ้านบางส่วนก็เริ่มทยอยกลับมาบ้างแล้วประมาณ 20-30 คน เพื่อมากรีดยาง เพื่อหาเงินจุนเจือครอบครัว แต่ในตอนกลางคืน ไม่อนุญาตให้ชาวบ้านนอนที่บ้าน ต้องมานอนรวมกันกับ ชรบ.ในหลุมบังเกอร์ ซึ่งสามารถจุคนได้ประมาณ 80-100 คน เพื่อความปลอดภัย เพราะในขณะนี้ ยังคงมีเสียงปืนใหญ่จากการสู้รบกันดังสนั่นอยู่ทั้งวันทั้งคืน โดยเฉพาะเมื่อคืนที่ผ่านมา ที่บริเวณเขาพระวิหาร อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ซึ่งเป็นแนวเขตติดต่อกัน

สิ่งที่กังวลใจที่สุดตอนนี้ก็คือ ยังคงพบโดรนปริศนาบินว่อนในตอนกลางคืน โดยเฉพาะช่วงหัวค่ำ เวลาประมาณ 19.00 น. จะบินมาจากทางด้านทิศตะวันออกของประเทศฝั่งกัมพูชา ประมาณ 8 ลำ ซึ่งในหมู่บ้านเราจะปิดไฟทุกหลอด ทั้งไฟถนน และไฟบ้าน พร้อมให้ ชรบ.หรือ ชาวบ้าน รีบหลบเข้าใต้ต้นไม้ใหญ่ หรือบังเกอร์ทันที เพื่อความไม่ปลอดภัยของเรา เพราะถ้าโดรนเห็นคน มันก็จะบินวนอยู่ใกล้ๆ ตรงศีรษะเรา แต่ว่ามันจะอยู่สูงมาก ยอมรับว่ากลัว แต่เราต้องทำหน้าที่

ด้าน พระครูอรุณ ปุณโญภาส เจ้าอาวาสวัดสำโรงเกียรติ กล่าวว่า ในช่วงที่ชาวบ้านพากันอพยพ พระที่วัดก็มีบางส่วนอพยพไปบ้าง บางส่วนก็ยังคงอยู่ที่วัด ตอนเช้าก็จะมีพระบางรูปออกเดินบิณฑบาตร ตามกิจวัตรของสงฆ์ ปรากฏว่าหมู่ บ้านเงียบสนิทไม่มีชาวบ้านอยู่เลยสักคน ก็จะมีเพียง ชรบ.ที่ตื่นเช้ามาทำบุญใส่บาตรคนสองคน จึงต้องทำอาหารเสริมช่วยกันที่วัด รู้สึกสงสารชาวบ้านที่อพยพ โดยเฉพาะคนที่ป่วยติดเตียง คนที่ผู้สูงอายุ ทางวัดจึงได้นำข้าวสารอาหารแห้งไปช่วยที่ศูนย์พักพิงบ้าง เล็กๆ น้อยๆ
อาตมาก็ได้แต่นั่งสวดมนต์ภานาขอพร “หลวงพ่อตาตน” สิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองแห่งวัดแห่งนี้ ขอให้ปกปักรักษา ให้ทั้งเจ้าหน้าที่และชาวบ้านปลอดภัยทุกคน หวังว่าจะจบลงด้วยดี และจบไวๆสงสารชาวบ้าน ซึ่งตอนนี้ก็ยังมีเสียงปืนดังอยู่ โดยเฉพาะเมื่อคืนที่ผ่านมา ดังถี่มาก บางครั้งเสียงปืนใหญ่ดังจนหลังคาสังกะสีเก่าสั่นสะเทือน กระจกร้าว อีกด้วย.
ทีมข่าว จ.ศรีสะเกษ // รายงาน









