ทลายเครือข่ายแอปพลิเคชันเงินกู้เถื่อน ก๊วนจีนเทา รวมกว่า 30 แอปฯ ดอกเบี้ยพุ่งร้อยละ 3,000 ต่อปี หากไม่จ่ายถูกประจาน !!
22 พฤศจิกายน 2568 เวลา 05:45:00
17
ทลายเครือข่ายแอปพลิเคชันเงินกู้เถื่อน ก๊วนจีนเทา รวมกว่า 30 แอปฯ ดอกเบี้ยพุ่งร้อยละ 3,000 ต่อปี หากไม่จ่ายถูกประจานถ้วนหน้า พบเงินทุนหมุนเวียนรวมกว่า 3,000 ล้านบาท
วันที่ 22 พ.ย. 68ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (บก.ปอศ.) เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดตรวจค้น ตำรวจ กก.5 บก.ปอศ.
สถานที่ตรวจค้น 1. บ้านแห่งหนึ่ง ภายในเขตสายไหม กรุงเทพมหานคร 2. บ้านแห่งหนึ่ง ภายในอำเภอเมือง จังหวัดอุดรธานี
โดยทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ร่วมกันจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับ จำนวน 13 หมายจับ ผู้ต้องหา 10 ราย ได้แก่1.นางบุญชู (สงวนนามสกุล)อายุ 60 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดนนทบุรีที่ จ.1537/2568 ลงวันที่ 13 พฤศจิกายน 2568 / 2.น.ส.จุรีพร (สงวนนามสกุล) อายุ 30 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาตลิ่งชันที่ จ.839/2568 ลงวันที่ 13 พฤศจิกายน 2568 / 3.Mr. Haidong อายุ 35 ปี สัญชาติจีน ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาตลิ่งชันที่ จ.841/2568 ลงวันที่ 13 พฤศจิกายน 2568 และผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดนนทบุรีที่ จ.1541/2568 ลงวันที่ 13 พฤศจิกายน 2568 /4.นายกิติพันธ์ (สงวนนามสกุล) อายุ 19 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาตลิ่งชันที่ จ.835/2568 ลงวันที่ 13 พฤศจิกายน 2568 /5.นายณัฐพงศ์ (สงวนนามสกุล) อายุ 43 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาตลิ่งชันที่ จ.834/2568 ลงวันที่ 13 พฤศจิกายน 2568 / 6.นางขวัญตา (สงวนนามสกุล) อายุ 30 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาตลิ่งชันที่ จ.839/2568 ลงวันที่ 13 พฤศจิกา ยน 2568 / 7.นายกฤษฎา (สงวนนามสกุล) อายุ 49 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาตลิ่งชันที่ จ.836/2568 ลงวันที่ 13 พฤศจิกายน 2568 / 8.นางสาวขวัญจิรา (สงวนนามสกุล) อายุ 31 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาที่ 6676/ 2568 ลงวันที่ 17 พฤศจิกายน 2568 และผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ที่ 6673/ 2568 ลงวันที่ 17 พฤศจิกายน 2568 / 9.นายเสกสรรค์ (สงวนนามสกุล) อายุ 32 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาที่ 6674/2568 ลงวันที่ 17 พฤศจิกา ยน 2568 และผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ที่ 6671/2568 ลงวันที่ 17 พฤศจิกา ยน 2568 / 10.Mr.Chaofan อายุ 23 ปี สัญชาติจีน ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาที่ 6679/2568 ลงวันที่ 17 พฤศจิ กายน 2568
พร้อมตรวจยึด ดังนี้ 1. โทรศัพท์มือถือ 10 เครื่อง 2. สมุดบัญชีธนาคาร 3 บัญชี 3. คอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ก 3 เครื่อง 4. บัตร ATM 1 ใบ

ผู้ต้องหารายที่ 1-7 จะถูกดำเนินคดีในความผิดฐาน “ร่วมกันประกอบธุรกิจสินเชื่อส่วนบุคคลภายใต้การกำกับโดยไม่ได้รับอนุญาตจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังและร่วมกันเรียกดอกเบี้ยเกินอัตราที่กฎหมายกำหนด”
และในส่วนของผู้ต้องหารายที่ 8-10 จะถูกดำเนินคดีในความผิดฐาน “ร่วมกันประกอบธุรกิจสินเชื่อส่วนบุคคลโดยไม่ได้รับอนุญาต ร่วมกันเรียกดอกเบี้ยเกินอัตราที่กฎหมายกำหนด, ร่วมกันทวงถามหนี้ในลักษณะการข่มขู่ การใช้ความรุนแรง หรือการกระทำอื่นใดที่ทำให้เกิดความเสียหายแก่ร่างกายชื่อเสียง หรือทรัพย์สินของลูกหนี้หรือผู้อื่น ร่วมกันทวงถามหนี้โดยใช้วาจาหรือภาษาที่เป็นการดูหมิ่นลูกหนี้หรือผู้อื่น ร่วมกันทวงถามหนี้โดยแจ้งหรือเปิดเผยเกี่ยวกับความเป็นหนี้ของลูกหนี้ให้แก่ผู้อื่นที่ไม่เกี่ยวข้องกับการทวงถามหนี้”

พฤติการณ์ ในช่วงปี 2568 ได้มีผู้เสียหายมาร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน กก.5 บก.ปอศ. กรณีกู้เงินมาจากแอปพลิเค ชันเงินกู้นอกระบบชื่อ vita shelf , ทรัพย์พลัส และสินเชื่อมือโปร รวมถึงแอปพลิเคชันอื่นที่เกี่ยวข้อง อีกกว่า 30 แอป พลิเคชัน โดยเรียกดอกเบี้ยโหดกว่าร้อยละ 3,000 ต่อปี นอกจากนั้นยังมีพฤติการณ์ข่มขู่จะเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของลูกหนี้ เป็นเหตุให้ประชาชนได้รับความเสียหาย และมีการข่มขู่คุกคามผู้กู้ให้ได้รับความเดือดร้อน
ต่อมาจึงได้ทำการสืบสวนสอบสวนรวบรวมข้อมูล พบว่ากลุ่มปล่อยเงินกู้ดังกล่าวเป็นเครือข่ายลักลอบปล่อยเงินกู้นอกระบบผ่านแอปพลิเคชันชื่อ vita shelf ,ทรัพย์พลัส และสินเชื่อมือโปร รวมถึงแอปพลิเคชันอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกว่า 30 แอปพลิเคชัน ซึ่งมีพฤติการณ์ในการปล่อยเงินกู้เรียกดอกเบี้ยเกินกว่าอัตราที่กฎหมายกำหนด ทวงถามหนี้โดยส่งข้อความข่มขู่คุกคามผู้เสียหาย ซึ่งจากการสืบสวนพบว่ามีกลุ่มทุนชาวจีนอยู่เบื้องหลัง โดยเจ้าหน้าที่สามารถพิสูจน์ทราบบุคคลที่เกี่ยวข้องกับแอปพลิเคชัน และสามารถยื่นคำร้องต่อศาลเพื่อขออนุมัติหมายจับผู้ที่เกี่ยวข้องได้หลายราย

ต่อมาเจ้าหน้าที่ฯ ได้ทำการเข้าตรวจค้นเป้าหมายจำนวน 2 จุด ในพื้นที่ 2 จังหวัด ได้แก่ กรุงเทพมหานคร และ อุดรธานี ซึ่งสามารถจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับได้ทั้งหมด 13 หมายจับ ผู้ต้องหา 10 ราย
จากการสืบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจพบว่าแอปพลิเคชัน vita shelf ,ทรัพย์พลัส และสินเชื่อมือโปร มีลักษณะคล้ายกันโดยเมื่อดาวน์โหลดแอปพลิชันแล้ว จะพบว่าภายในแอปพลิชันดังกล่าวมีแอปพลิเคชันย่อยแอบแฝงอยู่กว่า 30 แอปพลิเคชัน ซึ่งลูกหนี้สามารถเลือกกู้เงินได้ โดยมีการคิดค่าบริการร้อยละ 40 ของยอดเงินกู้ ต่อ 7 วัน หรือคิดดอกเบี้ยกว่า ร้อยละ 3,000 ต่อปี เมื่อลูกหนี้ไม่ชำระหนี้ตามกำหนดเวลา ก็จะโทรศัพท์และส่งข้อความมาทวงถาม ในลักษณะข่มขู่คุกคามว่าจะเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล ทั้งนี้จากการสืบสวนเพิ่มเติม พบว่าผู้อยู่เบื้องหลังคือนายทุนชาวจีนที่เป็นผู้รับผลประโยชน์และเป็นท่อน้ำเลี้ยงให้กับแอปพลิเคชันดังกล่าว
โดยในส่วนของแอปพลิเคชัน “vita shelf” “ทรัพย์พลัส” “สินเชื่อมือโปร” จากการตรวจสอบพบว่าไม่เคยได้รับอนุญาตให้ประกอบธุรกิจสินเชื่อส่วนบุคคลภายใต้กำกับแต่อย่างใด โดยภายในระยะเวลา 1 ปี ทั้ง 3 แอปพลิเคชัน มีกลุ่มคนร้ายใช้บัญชีธนาคารกว่า 10 บัญชี ในการกระทำความผิด และมียอดเงินหมุนเวียนรวมทั้ง 3 แอปพลิเคชัน รวมทั้งสิ้นกว่า 3,000 ล้านบาท เมื่อแอปพลิเคชันได้กำไรจากการปล่อยเงินกู้นอกระบบแล้ว ทั้งสามแอปพลิเคชันมีการนำกำไรดังกล่าว โอนต่อไปยังผู้รับผลประโยชน์เป็นชาวต่างชาติ (คนจีน) และหมุนเวียนใช้จ่ายเป็นการซื้อเหรียญคริปโตเคอเรนซี, อุปกรณ์คอมพิวเตอร์, สินค้า และบริการต่างๆ เพื่อให้ยากต่อการถูกตรวจสอบจากเจ้าหน้าที่.
วุฒิไกร พิมพ์เงิน / รายงาน

น้องพริ้งพราว ณิศวรา สุนันต๊ะ คว้าตำแหน่ง Miss Queen Of Pai V.3 ไปครอง
5
ศิลปวัฒธรรม-บันเทิง

พรรคไทยพิทักษ์ธรรม พรรคจากประชาชนเป็นเจ้าของ แถลงข่าว "สร้างโจทย์เลือกตั้ง จะนำไปสู่รัฐล้มเหลวจริงหรือ?!?
การเมือง-การเมืองท้องถิ่น
แห่เรียนเทคนิคระยองแน่น รอบโควต้าพิเศษเกรดเฉลี่ย 3.00 ผอ.เผยเด็กระดับหัวกะทิ สมัครเพียบ
การศึกษา
ชาวท่ายางต้อนรับอบอุ่นขบวนรถโบราณ “เพชรบุรี-หัวหิน วินเทจ คาร์ พาเหรด ครั้งที่ 23”





