พฤติการณ์ สืบเนื่องจากประมาณ เดือนตุลาคม 2568  ได้มีผู้เสียหายมาร้องทุกข์ต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.ปอศ. เกี่ยวกับเจ้าหนี้เงินกู้นอกระบบ ซึ่งปล่อยเงินกู้ในเขตพื้นที่จังหวัดนนทบุรี และพื้นที่ข้างเคียง โดยมีพฤติการณ์ข่มขู่ลูกหนี้ บุคคลดังกล่าวเรียกเก็บดอกเบี้ยในอัตราที่สูงมาก ซึ่งต้องจ่ายดอกเบี้ยรายวัน คิดเป็นร้อยละ 6.67 ต่อวัน หรือ ร้อยละ 2,434 ต่อปี เป็นการคิดดอกเบี้ยที่เอารัดเอาเปรียบและ ซ้ำเติมประชาชน รวมถึงผู้ประกอบธุรกิจค้าขายในพื้นที่แถบจังหวัดนนทบุรี และพื้นที่ข้างเคียง 

อีกทั้งมีพฤติการณ์เมื่อลูกหนี้รายใดผิดนัดชำระหนี้จะใช้วิธีการโพสต์ประจานผ่านหน้า Facebook โดยใช้ถ้อยคำหยาบคาย ด่าทอ ในช่องทาง Messenger ของ Facebook รวมถึงใช้วิธีการโพสต์ข้อความลงในไลน์กลุ่มสาธารณะอื่น ซึ่งมีบุคคลอยู่มากมายโดยใช้การโพสต์รูปส่วนตัวของผู้เสียหาย ประกอบกับใช้ถ้อยคำประจานในลักษณะทำให้อับอายและเสียชื่อเสียง จึงได้มาร้องทุกข์กล่าวโทษเพื่อดำเนินคดีกับเจ้าหนี้รายดังกล่าว                

พล.ต.ต.ทัศน์ภูมิ จารุปรัชญ์ ผบก.ปอศ. จึงสั่งการให้ กก.5 บก.ปอศ. ดำเนินการสืบสวนสอบสวน และจับกุมผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.5 บก.ปอศ.  ได้ดำเนินการสืบสวน จนพบว่าคนร้ายได้ใช้วิธีการโฆษณา ผ่านทางสื่อ Social Media ผ่านแอพพลิเคชั่น Facebook เพื่อชักชวนให้ประชาชนทั่วไปเข้าไปกู้เงิน โดยเป้าหมายเน้นไปที่กลุ่มผู้ประกอบธุรกิจรายย่อยที่ขาดสภาพคล่องทางการเงิน และ ไม่สามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนถูกกฎหมายได้ รวมถึงขั้นตอนการอนุมัติสินเชื่อไม่ยุ่งยาก และไม่จำเป็นต้องใช้หลักฐาน ยืนยันตัวตน และไม่ต้องใช้คนค้ำประกัน เมื่อตกลงพูดคุยกันและอนุมัติเงินกู้แล้วนั้น คนร้ายจะใช้วิธีการโอนเงินต้นให้ผู้กู้ด้วยตนเอง และนำสลิปที่โอนเงินต้นนั้น ไปโพสต์สร้างเครดิตให้ตนเองใน Facebook เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือจนมีคนต้องการกู้ยืมเงินกับตน แต่หากลูกหนี้ผิดนัดชำระหนี้ก็จะใช้วิธีการโทรศัพท์ข่มขู่ และใช้ถ้อยคำหยาบคาย ด่าทอ รวมถึงโพสต์ประจานภาพผู้เสียหายไปยังกลุ่มสาธารณะต่างๆ เพื่อกดดันให้ลูกหนี้ต้องชำระหนี้ให้กับตนตามต้องการ ซึ่งการกระทำของกลุ่มคนร้ายเป็นการกระทำที่อุกอาจ ไม่เกรงกลัวกฎหมายบ้านเมือง และภายหลังเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ขออนุมัติหมายจับคนร้ายต่อศาลอาญาไว้แล้ว