55

อาชญากรรม

สุดอุกอาจ !! ลูกชายตำรวจใหญ่สุดเหี้ยมดักรัว 11 นัดสังหารคู่อริกลางน้ำหน้าเซเว่นฯ ปากพนัง เพื่อนขับปาเจโร่มารับขับลุยน้ำท่วมหลบหนี ตำรวจปิดเมือง 6 ชม.ไล่ล่าจับกุมได้โดยละม่อมทั้ง 2 คน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเมื่อกลางดึกคืนที่ผ่านมา (26 พ.ย.) พ.ต.อ. นัษฐวุฒิ ทองทิพย์ รอง ผบก. ภ.จว.นครศรีธรรมราช รรท.ผกก.สภ.ปากพนัง ได้รับแจ้งเหตุยิงกันบริเวณหน้าร้านเซเว่นอีเลฟเว่น ถนนชายทะเล เขตเทศบาลเมืองปากพนัง จึงพร้อมด้วย พ.ต.ท.สวัสดิ์ นิยมเดชา รรท.รอง ผกก.สส.สภ.ปากพนัง ร.ต.อ.ณัฐธนน ลิ่มประจวบพงษ์ พนักงานสอบสวนเวร สภ.ปากพนังชุดสอบสวนสืบสวน เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัย รีบรุดไปตรวจสอบในที่เกิดเหตุ

เมื่อไปถึงพบรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อ ยามาฮ่า สีเทา - ดำ คันติดแผ่นทะเบียน 4ขอ 6971 กทม. ทราบว่าเป็นรถของคนร้าย และรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า รุ่น เวฟ คันติดแผ่นป้ายทะเบียน 1กน 4752 นครศรีธรรมราช ของผู้เสียหลาย จอดอยู่ริมถนนหน้าร้าน ฯซึ่งมีน้ำท่วมขัง โดยมีผู้ถูกยิงบาดเจ็บสาหัส 1 ราย ทราบชื่อนายภานุเดช หรือสมายด์ อายุ 33 ปี บ้านอยู่ ม.2 ต.ปากพนังฝั่งตะวันออก อ.ปากพนัง จ.นครศรีธรรมราช เจ้าหน้าที่กู้ภัยชวยเหลือนำส่ง รพ.ปากพนัง ก่อนหน้าแล้ว พบปลอกกระสุนปืน 9 มม.จำนวน 8 ปลอกและหัวกระสุนปืนขนาดเดียวกันตกอยู่จำนวน 2 หัว จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน

ต่อมา ได้รับแจ้งว่าคนเจ็บทราบว่าทนพิษบาดแผลไม่ไหวสิ้นใจตายในเวลาต่อมา จึงเดินทางไปร่วม แพทย์หญิงณัฐฏา กล้าหาญ แพทย์เวร รพ..ปากพนัง และจากการชันสูตรพลิกศพพบบาดแผลจากอาวุธปืนขนาด 9 มม. ที่ศรีษะ จำนวน 5 แผล , ลำตัว 3 , แขน 2 แผล , หลัง 1 แผล รวม 11 แผล และได้นำส่งนิติเวชโรงพยาบาลมหาราชนครศรีธรรมราช เพื่อผ่าชันสูตรอย่างละเอียดอีกครั้งหนึ่ง

จากการสอบสวน นางศิวพร ซึ่งเป็นญาติของผู้เสียชีวิต และเป็นประจักษ์พยานในที่เกิดเหตุยืนยันว่านายพล อายุ 22ปี เป็นบุตรชายของนายตำรวจระดับสารวัตร สภ.แห่งหนึ่ง มีบ้านอยู่ ถนนชายน้ำ ต.ปากพนัง อ.ปากพนัง จ.นครศรีธรรม ราช คือมือปืนเหี้ยมที่ก่อเหตุรัวยิงนายภาณุเดช ประกอบกับภาพจากกลองวงจรปิดจับภาพเหตุการณ์เอาไว้ได้อย่างชัดเจน หลังก่อเหตุมือปืนได้ทิ้งรถ จยย.เอาไว้หน้าร้านเซเว่นฯ ที่เกิดเหตุ และมีเพื่อนขับรถยนต์มิติซูบิชิ ปาเจโร ขับลุยน้ำท่วมหลบหนีไปอย่างรวดเร็ว

พ.ต.อ.นัษฐวุฒิ ทองทิพย์ จึงสั่งการให้ตำรวจปิดล้อมพื้นที่ อ.ปากพนัง พร้อมประสานไปยัง สภ.ใกล้เคียง ให้ช่วยสกัดจับกุมคนร้ายรายนี้ ในขณะเดียวกันพนักงานสอบสวนได้เร่งทำสำนวนเสนอขอหมายจับจากศาลปากพนัง และศาลอนุมัติหมายจับ เลขที่ จ.193/2568 ลงวันที่ 27พฤศจิกายน 2568 ให้จับกุม นายพล และเพื่อน รวม 2 คนฐานความผิดฐานร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา,มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนโดยไม่ได้รับอนุญาตฯ

จนกระทั่งเวลา 01.30 น.วันที่ 27 พ.ย. 2568 เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุม นายพล มือปืนและเพื่อนที่ทำหน้าที่ขับรถยนต์ปาเจโร่ พานายพล หลบหนี ได้โดยละม่อมพร้อมอาวุธปืนที่ใช้ในการก่อเหตุ ควบคุมตัวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมาย ในเบื้องต้น นายพล มือปืนให้การรับสารภาพว่ ามีเรื่องขัดแย้งทะเลาะวิวาทกับ นายภาณุเดช ผู้เสียชีวิตมาก่อน โดยในช่วงน้ำท่วมจึงมีผู้คนแห่มาซื้อสินค้าในน้านเซเว่นฯ จำนวนมาก นายพล ทราบว่านายภาณุเดช หรือมายด์ คู่อริมาซื้อสินค้าในร้านเซเว่นฯ ด้วยจึงขับรถ จยย. มาตรวจสอบ เมื่อพบว่า นายภาณุเดช เป้าสังหารกำลังจ่ายค่าสินค้าอยู่หน้าเคาน์เตอร์ในร้าน จึงโทรศัพท์ให้เพื่อนขับรถปาเจโร่ มารอรับก่อนตัวเองเดินตรงปรี่เข้าไปรั่วยิงนายภาณุเดช อย่างถี่ยิบ 11 นัด อย่างโหดเหี้ยม จนแน่ใจว่าเหยื่อกระสุนไม่รอดแน่แล้ว จึงเดินขึ้นรถปาเจโร ที่เพื่อนติดเครื่องรออยู่ขับลุยน้ำท่วมหลบหนี จนกระทั่งถูกออกหมายจับและถูกจับกุมดังกล่าว.

ไพฑูรย์ อินทศิลา /นครศรีธรรมราช