ทนายหัวร้อน ชักปืนยิงหนุ่มบิ๊กไบค์อ้างป้องกันตัว ด้านคนเจ็บลั่นไม่ยอมความ ทนายเดชาซัด ทุกอาชีพไม่มีสิทธิ์ทำร้ายใคร
2 ธันวาคม 2568 เวลา 02:45:00
7
จากกรณี นายณัฐชโนดม (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 65 ปี นายกสมาคมนักกฎหมายแห่งหนึ่ง ก่อเหตุใช้อาวุธปืนพกสั้นขนาด 9 มม. ยิงนายบดินทร์ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 36 ปี บริเวณแขนซ้าย 1 นัด ได้รับบาดเจ็บ เหตุเกิดบริเวณหน้าร้านอะลูมิเนียม ใกล้เคียงสี่แยกบางพลู ถ.รัตนาธิเบศร์ (ฝั่งมุ่งหน้าแคราย) ต.บางรักใหญ่ อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี ก่อนจะยืนรอมอบตัว กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางบัวทอง พร้อมด้วย ของกลางอาวุธปืนพกสั้น ขนาด 9 มม.
ล่าสุด นายณัฐชโนดมฯ เปิดใจกับผู้สื่อข่าวว่า เหตุเกิดเมื่อเวลา 9:00 น. ตนขับรถมาแยกบางพลูเปิดไฟเลี้ยวกำลังจะเลี้ยวซ้าย ทางคู่กรณีได้อยู่ข้างหลังรถตน คงคิดว่าตนไปเบียดแต่จริงๆแล้วเป็นทางเลี้ยว จากนั้นคู่กรณีได้ถีบรถตนหลังจากถีบตนยังไม่ได้เลี้ยว ทางคู่กรณีจึงขับรถออกขวาและชูนิ้วกลางให้ ตนจึงเลี้ยวรถไปตามทาง พบว่าทางคู่กรณีได้ชะลอรถเพื่อรอตน พอตนขับไปถึงทางคู่กรณีได้ถีบรถตนอีกครั้งหนึ่ง ตนจึงหันไปบอกว่า “อ้าว ยังอยู่แถวนี้อีก” ซึ่งตอนนั้นเริ่มมีความโมโหแล้ว ตนเลยลงไปถามว่า “ทำไมถึงต้องถีบรถ” ทางคู่กรณีจึงด่าตนว่า ”แก่“ และด่าคำหยาบคาย ตนเริ่มมีอาการโมโห แฟนคู่กรณีก็แทนที่จะห้ามแฟนตัวเองกลับมาดันตนฝ่ายเดียว คู่กรณีได้เดินประชิดตัว ตนจึงกลัวว่าเขาจะมีมีดเพราะใส่แจ็คเก็ตไม่สามารถรู้ได้ว่าตอนนั้นเขามีอาวุธปืนอยู่ในกระเป๋าหรือไม่
ตนบอกกับทางคู่กรณีว่าตนมีปืน ทางคู่กรณีกางแขนออกและท้าให้ยิงเลย ตนจึงยิงขู่โดนบริเวณแขนซ้าย ไม่ได้กะจะยิงให้โดนตัวแค่จะยิงขู่ ถ้าตนตั้งใจยิงระยะแค่นั้นโดนแน่นอน และตนยิงแค่นัดเดียว หลังจากนั้นได้เอาปืนไปเก็บที่รถ และเดินกลับมาถามว่าเป็นยังไงบ้าง คิดว่าถ้าเป็นอะไรมากเดี๋ยวจะพาขึ้นรถไปส่งโรงพยาบาล ยืนยันว่าที่ถามไม่ได้เป็นการเยาะเย้ย ถามแค่ว่าเป็นอะไรมากไหม จะได้ช่วยพาไปส่งโรงพยาบาล หลังเกิดเหตุไม่ได้หนีไปไหนยืนรอมอบตัวอยู่ ข่าวที่บอกว่าตนขับรถหนีไม่เป็นความจริง แต่ตนแค่ขยับรถเข้าจอดที่ปลอดภัย และรอเจ้าหน้าที่ตำรวจมา ซึ่งตอนนี้ตนได้ยื่นประกันตัว วงเงิน 300,000 บาท หลังจากนี้จะรับผิดชอบทุกอย่าง ทั้งค่ารักษาพยาบาลเบื้องต้น ส่วนเรื่องเยียวยาจะขอคุยกันอีกที ตอนนี้รู้สึกเสียใจในการกระทำที่ทำลงไป ไม่อยากให้มีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้น ตอนนั้นยอมรับว่าตนบันดาลโทสะ ควบคุมอารมณ์ไม่อยู่

ต่อมาผู้สื่อข่าวเดินทางไปพบ นายบดินทร์ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 36 ปี ผู้บาดเจ็บ ที่นอนรักษาตัวอยู่โรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่ง ได้เปิดใจกับผู้สื่อข่าวว่า ขณะเกิดเหตุตนกำลังไปส่งแฟนที่บ้านก่อนจะไปทำงาน ตนขับขี่รถอยู่ที่เลน 2 รถของคู่กรณีขับปาดมาจากเลนที่ 3 ตนได้บีบแตรใส่ แต่เขาก็บีบตอบกลับมา จนถึงแยกบางพลู คู่กรณีขับรถมาเบียดรถตนจนเกือบรถล้ม ตนจึงประคองรถและมีปากเสียงกับคู่กรณี แต่ก่อนจะจอดตนเห็นคู่กรณีชักปืนมาขึ้นลำและหันปืนมาทางตน ตนยืนยันว่าไม่ได้มีการด่าทอคู่กรณีด้วยถ้อยคำหยาบคาย แต่ถามเขาว่า “ทำไมถึงขับรถปาดหน้าตนมาแบบนี้” แต่เขาคิดว่าตนไปเตะรถของเขา ซึ่งตนไม่ได้เตะ ตอนที่มาจอดรถคุยกันคู่กรณีไม่ยอมจบ จนตนเหนื่อยแล้ว ตนจะขับขี่รถหนีคู่กรณีก็ไม่ให้ไป และเล็งปืนมาที่แขนของตนแล้วยิง พร้อมพูดท้าทายตนตามคลิป ตอนนี้อยากได้รับความเป็นธรรมที่คู่กรณีให้ข่าวกับสื่อไป เพราะมันไม่เป็นความจริง ตนอยากให้เขามาดูแลและรับผิดชอบแบบที่พูด เพราะตนมองว่าคู่กรณีพยายามจะฆ่าตน โดยที่ตนไม่ได้มีอาวุธ ตนยืนยันจะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด เพราะตนมีแค่มือเปล่า

ด้าน น.ส.สุดารัตน์ (ขอสงวนนามสกุล) แฟนสาวของผู้บาดเจ็บ กล่าวว่า ตอนที่ตนหันไปเห็นคู่กรณีถือปืนอยู่ในรถ รู้สึกตกใจและตกอยู่ในอันตราย แต่แฟนตนคิดว่าเขาคงไม่กล้ายิงเพราะมันเป็นที่สาธารณะ คู่กรณีเดินลงมาจากรถ ตนจึงยืนคั่นกลางเพื่อห้ามก็ถูกคู่กรณีผลักออก ตนพยายามโทรติดต่อครอบครัว หันมาอีกทีแฟนตนถูกยิงไปแล้ว 1 นัด ตนจึงถามคู่กรณีว่า “ทำไมถึงยิง” ซึ่งคู่กรณีตอบกลับมาว่า “ก็มันท้ากูเอง” และพูดกับแฟนตนว่า “อย่ามาเก่งกับกู“ จากนั้นตนพยายามโทรเรียกรถพยาบาล โชคดีมีรถพยาบาลผ่านมาจึงเข้าช่วยเหลือ ซึ่งคู่กรณีไม่ได้หนีไปไหนแต่ก็ทำเหมือนทองไม่รู้ร้อน เดินไป-มา และขับรถไปนั่งรอบนฟุตบาท ตนรู้สึกคู่กรณีใจร้ายและเลือดเย็นมาก หากต้องการยิงขู่ ก็สามารถยิงลงพื้นได้ ไม่จำเป็นต้องยิงให้แฟนของตนบาดเจ็บ และตนมองว่าหากจะป้องกันตัว แค่คู่กรณีมีอาวุธปืนก็ไม่มีใครกล้ายุ่งแล้ว
ช่วงที่ตนพาแฟนมาโรงพยาบาลเพื่อเข้าห้องผ่าตัดที่ได้รับบาดเจ็บถูกยิงกระสุนฝังที่แขนด้านซ้าย ใช้เวลาผ่าตัด 4 ชั่วโมง และใส่เหล็กดาม คุณพ่อและพี่สาวของแฟนจึงเดินทางไปที่ สภ.บางบัวทอง คุณพ่อได้เล่าให้ฟังว่ามีทนายของคู่กรณีเข้ามาขอไกล่เกลี่ย จำนวนเงิน 150,000 บาท และขอจบแบบเบาๆ ซึ่งครอบครัวมีความกังวลเรื่องความปลอดภัยเพราะการรักษามันยังไม่เสร็จสิ้น แฟนตนยังอยู่ในห้องผ่าตัด ต้องการให้เรื่องดำเนินไปตามกระบวนการและเอาเรื่องให้ถึงที่สุด สุดท้ายตนอยากขอบคุณทุกคนที่ให้การช่วยเหลือ และมีหลักฐานจากคลิปที่สามารถช่วยเหลือแฟนของตนให้ได้รับความเป็นธรรม

ด้านทนายเดชา กิตติวิทยานันท์ หรือทนายจุ๊กกรู ได้โพสต์ข้อความว่า "ทุกอาชีพไม่มีสิทธิ์ทำผิดกฏหมายหรือทำร้ายใครโดยปราศจากเหตุผล ทุกการกระทำมีผลตามมา ไม่นิยมใช้ความรุนแรง"

ยะลา - รวมพลังบูรณะภาพวาดสตรีทอาร์ต 'คิงภูมิพล' แสดงออกถึงความจงรักภักดี ผ่านงานศิลปะ
10
ศิลปวัฒธรรม-บันเทิง

ราชบุรี-รทสช.ขยับเกมการเมือง ตั้งตัวแทนพรรค วางโครงสร้างจังหวัด เตรียมคัดสรรผู้สมัครครบ 5 เขต เล็งประชุมใหญ่ 22 ธ.ค.นี้
การเมือง-การเมืองท้องถิ่น
กลุ่มโรงเรียนมัธยมศึกษาขอนแก่น กลุ่มที่ 1 จัดงานศิลปหัตถกรรมนักเรียน ครั้งที่ 73 รวมพลัง 42 โรงเรียนร่วมแข่งขันและแสดงศักยภาพทางวิชาการ
การศึกษา
ชาวท่ายางต้อนรับอบอุ่นขบวนรถโบราณ “เพชรบุรี-หัวหิน วินเทจ คาร์ พาเหรด ครั้งที่ 23”





