วุ่นทั้งบ้าน !! ตำรวจบางพลี บุกช่วยนักศึกษามหาลัยดัง หลังโดนแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอก จนทิ้งจดหมายลาไป มอบตัว คดีฟอกเงิน
4 ธันวาคม 2568 เวลา 16:15:00
13
วุ่นทั้งบ้าน !! ตำรวจบางพลี บุกช่วยนักศึกษามหาลัยดัง หลังโดนแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอก จนทิ้งจดหมายลาไป มอบตัว คดีฟอกเงิน
ตำรวจ สภ.บางพลี เร่งติดตามช่วยเหลือชายหนุ่ม วัย 20 ปี นักศึกษาจากวิทยาลัยแห่งหนึ่ง หลังตกเป็นเหยื่อแก๊งคอลเซ็นเตอร์ อ้างเป็นเจ้าหน้าที่ ปปง. จนหลงเชื่อทิ้งจดหมายลาแม่เพื่อเดินทางไป "มอบตัว" ก่อนถูกดูดเงินไปเกือบสองแสนบาท เคราะห์ดีที่ตำรวจตามตัวเจอและพาเข้าสู่กระบวนการทางกฎหมายอย่างปลอดภัย
เหตุการณ์นี้ถูกเปิดเผยขึ้นเมื่อเวลาประมาณ 20.05 น. ของวันที่ 3 ธันวาคม 2568 เมื่อ นางสมศรี (นามสมมุติ) มารดาวัย 45 ปี เข้าแจ้งความที่ สภ.บางพลี ด้วยความเป็นห่วงอย่างยิ่ง หลังกลับจากเลิกงานมาถึงห้องพักในหมู่บ้านเอื้ออาทรสุวรรณภูมิ ต.บางโฉลง อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ
สิ่งที่ทำให้เธอตกใจคือ นายเอ (นามสมมุติ) ลูกชาย วัย 20 ปี ซึ่งเป็นนักศึกษามหาลัยแห่งหนึ่งในจังหวัดชลบุรี ได้หายออกจากห้องไปตั้งแต่ช่วงเย็น และที่สำคัญคือ มี "เอกสารโน้ต" ทิ้งไว้บนโต๊ะคอมพิวเตอร์ ระบุข้อความสั้น ๆ ว่า "โดนคดีฟอกเงิน ต้องเดินทางไปให้การที่กรมสืบสวนคดีพิเศษ ปปง. ภายในวันที่ 3 ธ.ค. 68" นอกจากนี้ยังไม่สามารถติดต่อลูกชายได้เลย ทำให้มารดาเกรงว่าจะได้รับอันตรายทั้งร่างกายและทรัพย์สิน

หลังรับแจ้ง ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวน สภ.บางพลี ภายใต้การนำของ พ.ต.อ.ไพโรจน์ เพ็ชรพลอยผกก.สภ. บางพลี / พ.ต.ท.ภาวัต รัตนาภรณ์ รอง ผกก.สส.สภ.บางพลี / พ.ต.ต.สันติราษฎร์ เงินมั่น สว.สส.สภ.บางพลี ได้เร่งดำเนินการทันที โดยได้ข้อมูลจากมารดาถึงตำแหน่งโทรศัพท์มือถือล่าสุดของ นายเอ ซึ่งพบว่าอยู่ที่ อพาร์ทเม้นท์แห่งหนึ่ง ในซอยเปรมฤทัย 6 ต.บางโฉลง อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ เมื่อเดินทางไปถึงและสอบถามเจ้าของอพาร์ทเม้นท์ ก็ทราบว่า นายเอ อยู่ที่นี่จริง เจ้าหน้าที่จึงเข้าทำการตรวจสอบและพบตัวนักศึกษาหนุ่มอยู่ภายในห้อง เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ใช้ความพยายามในการเกลี้ยกล่อมอยู่นานจนทำให้ นายเอ คลายความกังวล และได้ประสานให้มารดาได้พบกับลูกชายในที่สุด ก่อนจะนำตัวกลับบ้านได้อย่างปลอดภัย

จากการสอบถาม นายเอ เล่าว่า ในวันเกิดเหตุช่วงเช้า (ประมาณ 09.42 น.) ได้มีเบอร์โทรศัพท์ปริศนาโทรเข้ามา อ้างตัวเป็นเจ้าหน้าที่กรมสืบสวนคดีพิเศษ ปปง. กล่าวหาว่าเขามีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีฉ้อโกงและฟอกเงินจากบัญชีธนาคารออมสินของตนเอง ซึ่งไปพัวพันกับคดีของ "นายเอ็ม เอกชาติ" ในคดีฟอกเงินเว็บพนัน ด้วยความตกใจและหลงเชื่อ นายเอ จึงปฏิบัติตามคำสั่งของมิจฉาชีพ โดยมีการแอดไลน์ชื่อ “กรมสอบสวนพิเศษ” ซึ่งภายหลังเปลี่ยนชื่อเป็น “พี่ภู”มิจฉาชีพได้ออกคำสั่งให้โอนเงินไปยังบัญชีต่าง ๆ ถึง 3 ครั้ง ในช่วงเวลา 12.03 น. ถึง 16.09 น. ของวันเดียวกัน ทำให้เกิดความเสียหายรวมทั้งสิ้น 181,204.72 บาท ก่อนที่จะตัดสินใจทิ้งจดหมายลาและทำตามคำสั่งมิจฉาชีพไปจนกระทั่งถูกตำรวจตามตัวเจอ
ปัจจุบัน เจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวน สภ.บางพลี ได้นำตัว นายเอ และนางสมศรี เข้าพบพนักงานสอบสวน ร.ต.ท.มานิตย์ เข็มหนู เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายและสืบสวนหาตัวผู้กระทำผิดมาลงโทษต่อไป ข้อควรระวัง เจ้าหน้าที่รัฐ ไม่มีนโยบาย โทรศัพท์ติดต่อประชาชนเพื่อแจ้งคดีทางการเงินหรือขอให้โอนเงินเพื่อตรวจสอบโดยเด็ดขาด หากมีเบอร์แปลกโทรมาแอบอ้าง ขอให้ตั้งสติ อย่าให้ข้อมูลส่วนตัว อย่าโอนเงิน และรีบปรึกษาตำรวจ หรือโทรสายด่วน 1441 หรือ 191 ทันที

ด้าน พ.ต.อ.ไพโรจน์ เพ็ชรพลอย ผกก.สภ.บางพลี เผยว่า เมื่อวานช่วงเย็นได้รับแจ้งจากผู้ปกครอง ว่ามีเด็กหายตัวออกไปจากบ้านแล้วเขียนโน้ตทิ้งไว้ ต้องไปติดต่อเกี่ยวกับคดีฟอกเงิน ทางผู้ปกครองจึงมาแจ้งตำรวจ ทางตำรวจได้ตรวจสอบ พบว่าเด็กถูกหลอกให้ไปกักตัวตัวเอง หรือจับตัวเองตัวประกันที่อพาร์ทเมนท์ ทางตำรวจได้ไปช่วยออกมาได้ จากการสอบสวนเด็กทราบว่าคนร้าย ปลอมตัวเป็นเจ้าหน้าที่ DSI โทรมาหาเด็ก แล้วแจ้งว่ามีคนเอาบัญชี ไปเปิดรับโอนเงินเว็บการพนันและยาเสพติด ซึ่งเกี่ยวข้องกับการฟอกเงิน และขอให้แสดงความบริสุทธิ์ใจ โดยการโอนเงินไปให้เจ้าที่ตรวจสอบ เด็กก็หลงเชื่อ จึงได้โอนเงินไป ช่วงนั้นเด็กยังอยู่บ้านปกติ และเริ่มสู่ขั้นตอนให้เด็กลีออกจากบ้านไปอยู่ตามโรงแรมอพาร์ทเม้นท์ แล้วให้เด็กโทรมาหลอกผู้ปกครอง เพื่อให้ผู้ปกครองโอนเงินมาให้ทางคนร้ายอีกที แต่เคสนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถติดตามช่วยเหลือได้ทัน เด็กเป็นคนหาพักเองเพื่อหนีออกจากบ้านและเข้าสู่ขั้นตอนต่อไปของคนร้าย เคสนี้สูญเงินไปประมาณ 200,000 บาท
เคสแบบนี้เรียกว่าจับตัวเองเป็นตัวประกัน ซึ่งก่อนหน้านี้ระบาดอยู่พักหนึ่ง แต่ตอนนี้คนร้ายได้กลับมาใช้วิธีนี้อีก อยากฝากเตือนผู้ปกครอง ในกรณีที่เด็กได้ใช้โซเชียล และมีโทรศัพท์ของคนร้ายโทรเข้ามา ให้แจ้งเตือนกับเด็กว่ามีเคสแบบนี้เกิดขึ้น และถ้ามีแบบนี้ให้บอกผู้ปกครองทันที ซึ่งเคสแบบนี้ คนร้ายจะปลอมหนังสือของหน่วยงานต่างๆเพื่อมาหลอก และถ้าไม่ปฏิบัติตามจะมีเจ้าหน้าที่ตำรวจมาจับกุม เพราะส่วนใหญ่คนร้ายจะออนไลน์กับเด็กตลอด และคอยขู่เด็ก ตอนเด็กไม่กล้าบอกใคร เคสนี้ได้รับแจ้งประมาณ เวลา 16.45 น. และสามารถไปช่วยได้เวลา 4 ทุ่ม ซึ่งใช้เวลาไม่กี่ชั่วโมง ซึ่งในกรณีแบบนี้ทางคนร้ายจะอ้างตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจขู่เด็ก ทำให้เด็กกลัวการที่เห็นตำรวจเข้าไปจึงไม่คิดว่าตำรวจจะเข้าไปช่วย จึงทำให้เด็กกลัว และไม่แน่ใจว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เข้าไปเป็นตำรวจจริงหรือไม่ หลังจากนั้นเด็กจึงมั่นใจว่าผู้ปกครองได้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจจริงๆ เข้ามาช่วย2
เดี่ยว / ศราวุธ คงสินธ์ จ.สมุทรปราการ

ยะลา - รวมพลังบูรณะภาพวาดสตรีทอาร์ต 'คิงภูมิพล' แสดงออกถึงความจงรักภักดี ผ่านงานศิลปะ
10
ศิลปวัฒธรรม-บันเทิง

ราชบุรี-รทสช.ขยับเกมการเมือง ตั้งตัวแทนพรรค วางโครงสร้างจังหวัด เตรียมคัดสรรผู้สมัครครบ 5 เขต เล็งประชุมใหญ่ 22 ธ.ค.นี้
การเมือง-การเมืองท้องถิ่น
กลุ่มโรงเรียนมัธยมศึกษาขอนแก่น กลุ่มที่ 1 จัดงานศิลปหัตถกรรมนักเรียน ครั้งที่ 73 รวมพลัง 42 โรงเรียนร่วมแข่งขันและแสดงศักยภาพทางวิชาการ
การศึกษา
ชาวท่ายางต้อนรับอบอุ่นขบวนรถโบราณ “เพชรบุรี-หัวหิน วินเทจ คาร์ พาเหรด ครั้งที่ 23”









