CIB ร่วม อย. ตัดวงจร 4x100 มอมเมาเยาวชน ทลาย 3 เครือข่าย ยึดยาเขียวเหลืองกว่า 1 ล้านเม็ด
16 ธันวาคม 2568 เวลา 07:15:00
4
กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย พล.ต.ท.ณัฐศักดิ์ เชาวนาศัย ผบช.ก., พล.ต.ต.โสภณ สารพัฒน์, พล.ต.ต.ศารุติ แขวงโสภา รอง ผบช.ก., เจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.ปคบ. โดยการสั่งการของ พล.ต.ต.คงกฤช เลิศสิทธิกุล ผบก.ปคบ., พ.ต.อ.อนุวัฒน์ รักษ์เจริญ , พ.ต.อ.ชัฏฐ นากแก้ว, พ.ต.อ.สำเริง อำพรรณทอง, พ.ต.อ.พัฒนพงศ์ ศรีพิณเพราะ รอง ผบก.ปคบ., พ.ต.อ.วีระพงษ์ คล้ายทอง ผกก.4 บก.ปคบ., กระทรวงสาธารณสุข โดย ภญ.สุภัทรา บุญเสริม เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา, ภก.เลิศชาย เลิศวุฒิ รองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา, นพ.กฤษณ์ สกุลแพทย์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดชลบุรี, นพ.ประภาส ผูกดวง นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดสมุทรปราการ และ นพ.วิญญู จันทร์เนตร นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดสิงห์บุรี ปฏิบัติการทลายเครือข่ายจำหน่ายยาเขียวเหลือง ยาแก้ไอ ตัดวงจรน้ำกระท่อมมอมเมาเยาวชน ในพื้นที่ จ.ชลบุรี จ.สมุทรปราการ จ.สิงห์บุรี และกรุงเทพมหานคร ตรวจค้น 10 จุด ยึดของกลางกว่า 300 รายการ มูลค่ากว่า 20 ล้านบาท เบื้องต้นจับกุมผู้ต้องหาที่ไม่ใช่เภสัชกร 1 ราย
ส่วนผู้ร่วมการกระทำความผิดที่เหลืออยู่ระหว่างรอผลตรวจของกลางจากกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์
แล้วจะเรียกมาแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติม
พฤติการณ์กล่าวคือ สืบเนื่องจากกองกำกับการ 4 กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภคร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาเฝ้าระวังการลักลอบจำหน่ายยา
ผิดกฎหมาย หลังพบการใช้ยาแก้ปวดทรามาดอล หรือที่รู้จักกันดีในหมู่ผู้ใช้ว่า “ยาเขียวเหลือง” ยาแก้ไอ
ผิดวัตถุประสงค์ในกลุ่มวัยรุ่น โดยนำมาผสมกับน้ำกระท่อมเพื่อสร้างความมึนเมา หรือที่รู้จักกันในชื่อ "4x100" ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของการยกระดับไปสู่การเสพสารเสพติดอื่นที่รุนแรงขึ้น ซึ่งปัจจุบันกระทรวงสาธารณสุขยกระดับยาทรามาดอล เป็นยาควบคุมพิเศษ ต้องใช้ภายใต้การควบคุมของแพทย์ จะสามารถซื้อได้ต่อเมื่อมีใบสั่งแพทย์เท่านั้น
เจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.ปคบ. สืบสวนหาแหล่งลักลอบจำหน่ายยาเขียวเหลือง ยาแก้ไอ เพื่อนำไปใช้ผสมน้ำต้มใบกระท่อม รวมถึงโรงงานผลิตยาแก้ไอปลอม จนเป็นที่มาของการระดมกวาดล้างกลุ่มเครือข่าย
ผู้ลักลอบจำหน่ายยาเขียวเหลือง (ทรามาดอล) ยาแก้ไอ และผู้ผลิตยาแก้ไอปลอมเพื่อตัดวงจรการเสพ "4x100" จำนวน 3 เครือข่าย ดังนี้

1. เครือข่ายจำหน่ายยาเขียวเหลือง-ยาแก้ไอพื้นที่ จ.ชลบุรี และ จ.สมุทรปราการ
โดยเมื่อวันที่ 25 พฤศจิกายน 2568 เจ้าหน้าที่ตำรวจ บก. ปคบ. ร่วมกับเจ้าหน้าที่จากสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดชลบุรี สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสมุทรปราการ และสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาเข้าตรวจค้นสถานที่จัดเก็บและจำหน่าย จำนวน 5 จุด ได้แก่
1.1 สถานที่จัดเก็บ นำหมายค้นศาลจังหวัดพัทยาเข้าตรวจค้นภายในบ้านพักแห่งหนึ่ง ในหมู่ 13
ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี สามารถตรวจยึด ยาแก้ไอ-แก้แพ้ จำนวน 608 ขวด และยาแก้ปวดทรามาดอล จำนวน 1,000 แคปซูล
1.2 สถานที่จำหน่าย นำหมายค้นศาลจังหวัดพัทยาเข้าตรวจค้นภายในห้องพักแห่งหนึ่ง ในหมู่ 13
ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี สามารถตรวจยึดน้ำกระท่อมที่ผสมยาแก้ไอแล้วจำนวน 15 ขวด และ ยาแก้ไอยี่ห้อต่าง ๆ รวม 25 ขวด
1.3 สถานที่จำหน่าย นำหมายค้นศาลจังหวัดพระประแดงเข้าตรวจค้นภายในบ้านพักแห่งหนึ่ง ใน
ต.คลองบางปลากด อ.พระสมุทรเจดีย์ จ.สมุทรปราการ สามารถตรวจยึดน้ำกระท่อมบรรจุขวดปรุงแต่งกลิ่นรส จำนวน 218 ขวด ยาแก้ไอยี่ห้อต่าง ๆ จำนวน 291 ขวด ยาแก้ปวดทรามาดอล จำนวน 1,330 แคปซูล
1.4 สถานที่จัดเก็บ นำหมายค้นศาลจังหวัดพระประแดงเข้าตรวจค้นบ้านไม่มีเลขที่ หมู่ 9 ต.คลองบางปลากด อ.พระสมุทรเจดีย์ จ.สมุทรปราการ สามารถตรวจยึดสมุนไพรควบคุม (กัญชา) จำนวน 23 กิโลกรัม ยาแก้ปวดทรามาดอล จำนวน 1,500 แคปซูล ยาแก้ไอ-แก้แพ้ จำนวน 2,930 ขวด
1.5 สถานที่ต้องสงสัยว่าใช้ในการกระทำความผิด นำหมายค้นศาลแขวงพระประแดงเข้าตรวจค้นบ้านพักแห่งหนึ่ง ในหมู่ 9 ต.คลองปลากด อ.พระสมุทรเจดีย์ จ.สมุทรปราการ ตรวจยึดสมุดบัญชี ใบเสร็จ เอกสารอื่น รวม 9 รายการ 848 ชิ้น
2. เครือข่ายจำหน่ายยาแก้ไอเขียวเหลือง-ยาแก้ไอ พื้นที่กรุงเทพมหานคร

โดยเมื่อวันที่ 2 ธันวาคม 2568 ร่วมกับเจ้าหน้าที่สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาเข้าตรวจค้นสถานที่จัดเก็บและจำหน่าย จำนวน 3 จุด ได้แก่
2.1 สถานที่จัดเก็บและจำหน่าย นำหมายค้นศาลแขวงธนบุรีเข้าตรวจค้นภายในร้านขายยาแห่งหนึ่งในซอยพระราม 2 ซอย 33 แขวงบางมด เขตจอมทอง กรุงเทพฯ สามารถจับกุมตัว น.ส.สุภัทรา (สงวนนามสกุล) อายุ 37 ปี ในความผิดฐาน “ประกอบวิชาชีพเภสัชกรรมโดยมิได้รับใบอนุญาต” พร้อมตรวจยึดยาแก้ปวดทรามาดอล จำนวน 980 แคปซูล ยาแก้ไอ 2,242 ขวด และยาอื่น รวมทั้งสิ้น 9 รายการ กว่า 4,000 ชิ้น
2.2 สถานที่จัดเก็บ นำหมายค้นศาลแขวงธนบุรีเข้าตรวจค้นบ้านหลังหนึ่งในซอยอนามัยงามเจริญ 35 แขวงท่าข้าม เขตบางขุนเทียน กรุงเทพฯ สามารถตรวจยึดยาทรามาดอล จำนวน 162,000 แคปซูล
2.3 สถานที่จัดเก็บ นำหมายค้นศาลแขวงธนบุรีเข้าตรวจค้นบ้านพักหลังหนึ่ง ถนนงามเจริญ แขวงท่าข้าม เขตบางขุนเทียน กรุงเทพฯ ตรวจยึดยาแก้ไอ-ยาแก้แพ้ จำนวน 4,400 ขวด ยาทรามาดอล จำนวน 1.2 ล้านแคปซูล และยาอื่น รวม 71 รายการ
กลุ่มเครือข่ายทั้ง 2 กลุ่มที่เข้าตรวจค้นในพื้นที่ จ.ชลบุรี จ.สมุทรปราการ และกรุงเทพมหานครนั้น มีพฤติการณ์เปิดสถานพยาบาลและร้านขายยาเพื่อให้ได้โควตาในการสั่งซื้อยาในกลุ่มยาแก้ไอ ยาแก้แพ้ โดยเฉพาะยาทรามาดอล มาเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ได้รับอนุญาต และจากหลักฐานพบมีการนำไปโพสต์ขายทางออนไลน์ โดยมีวัตถุประสงค์ในการจำหน่ายหรือกระจายยาเหล่านี้ให้กับกลุ่มวัยรุ่นทั้งแบบปลีกและส่ง เพื่อใช้ผสมกับน้ำต้มใบกระท่อม รวมถึงการจำหน่ายให้ร้านขายน้ำต้มใบกระท่อมตามแหล่งชุมชน
3. เครือข่ายโรงงานผลิตยาแก้ไอปลอม พื้นที่ จ.สิงห์บุรี
โดยเมื่อวันที่ 27 พฤศจิกายน 2568 ร่วมกับเจ้าหน้าที่สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาและสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสิงห์บุรี ตรวจค้นสถานที่ที่เกี่ยวข้องในการกระทำความผิด จำนวน 2 จุด ได้แก่
3.1 สถานที่ผลิตและจัดเก็บบรรจุภัณฑ์ วัสดุอุปกรณ์บรรจุและผลิตยาแก้ไอปลอม นำหมายค้นศาลจังหวัดสิงห์บุรีเข้าตรวจค้นภายในบ้านพักแห่งหนึ่ง ใน ม.5 ต.บางกระบือ อ.เมือง จ.สิงห์บุรี สามารถตรวจยึดของกลางเป็นขวดเปล่ารอบรรจุยาแก้ไอปลอม 35,000 ขวด ฝาขวด 79,000 ฝา อุปกรณ์การพิมพ์ฝาและฉลาก 6 รายการ สารเคมีที่ใช้ในการผลิตยาแก้ไอปลอม เช่น ซิทริค แอซิด, แซคคารีน จำนวน 17 รายการ รวมของกลางทั้งสิ้นกว่า 120,000 ชิ้น
3.2 สถานที่ผลิต นำหมายค้นศาลจังหวัดสิงห์บุรีเข้าตรวจค้นภายในบ้านพักแห่งหนึ่ง ใน ม.5 ต.หัวไผ่ อ.เมือง จ.สิงห์บุรี ซึ่งเป็นสถานที่ต้มยาแก้ไอปลอม สามารถตรวจยึดของกลาง หม้อต้ม เครื่องจักรที่ใช้ในการบรรจุ เครื่องชั่ง ปั๊มลม สารเคมีและอุปกรณ์สำหรับผลิตยาแก้ไอปลอมจำนวน 23 รายการ จำนวนทั้งสิ้น 18,528 ชิ้น
โดยพฤติการณ์ของกลุ่มเครือข่ายผู้ผลิตยาแก้ไอปลอมนี้จะผลิตยาแก้ไอปลอมเพื่อส่งให้ร้านขายยาในแหล่งที่มีการจำหน่ายน้ำกระท่อม เพื่อให้วัยรุ่นนำยานี้ไปผสมกับน้ำต้มใบกระท่อมใช้เสพเพื่อความมึนเมา
รวมตรวจค้นทั้ง 3 เครือข่าย จำนวนทั้งสิ้น 10 จุด สามารถจับกุมผู้ต้องหาดำเนินคดี 1 ราย ฐาน “ประกอบวิชาชีพเภสัชกรรมโดยมิได้รับใบอนุญาต” ตรวจยึดของกลาง ได้แก่ ยาทรามาดอล จำนวน 1,366,810 แคปซูล ยาแก้แพ้-แก้ไอ จำนวน 10,496 ขวด ยาอื่น ๆ รวมถึงเครื่องจักร วัตถุดิบที่ใช้ในการลักลอบผลิตยาแก้ไอปลอม รวมกว่า 300 รายการ มูลค่ากว่า 20,000,000 บาท

ื้เบื้องต้นการกระทำดังกล่าวเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.ยา พ.ศ. 2510 ดังนี้
1. กรณีผู้ผลิตยาแก้ไอปลอมจะมีความผิด
- ฐาน “ผลิตและขายยาโดยไม่ได้รับอนุญาต” โทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี และปรับไม่เกิน 10,000 บาท
- ฐาน “ผลิตและขายยาปลอม” โทษจำคุกตั้งแต่ 3 ปี ถึงตลอดชีวิต และปรับตั้งแต่ 10,000 ถึง 50,000 บาท
2. กลุ่มเครือข่ายที่ลักลอบขายยาแผนปัจจุบัน หรือยาอันตราย จะมีความผิด
-ฐาน “ขายยาแผนปัจจุบันโดยไม่ได้รับอนุญาต” โทษจำคุกไม่เกิน 5 ปีและปรับไม่เกิน 10,000 บาท
-ฐาน “ขายยาอันตรายหรือยาควบคุมพิเศษโดยไม่มีใบสั่งแพทย์” โทษปรับตั้งแต่ 1,000 - 5,000 บาท
3. ผู้จำหน่ายยาโดยไม่ใช่เภสัชกร มีความผิดตาม พ.ร.บ.วิชาชีพเวชกรรม พ.ศ. 2537 ฐาน “เป็น
ผู้ประกอบวิชาชีพเภสัชกรรมทำการประกอบวิชาชีพเภสัชกรรมหรือแสดงด้วยวิธีใด ให้ผู้อื่นเข้าใจว่าตนเป็นผู้มีสิทธิประกอบวิชาชีพดังกล่าว โดยมิได้ขึ้นทะเบียนและรับใบอนุญาต” โทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 30,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ภญ.สุภัทรา บุญเสริม เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา กล่าวว่า อย. ได้เฝ้าระวังและตรวจพบว่า มีการอาศัยใบอนุญาตของสถานพยาบาลทำการขอซื้อยาจากผู้ผลิตในจำนวนนับล้านแคปซูลในช่วงปี 2567-2568 ซึ่งเป็นจำนวนที่มากผิดปกติ จึงได้ขอกำลังจากกองกำกับการ 4 กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (บก.ปคบ.) สืบสวนว่ายาดังกล่าวรั่วไปยังจุดใด จากการสืบสวนพบว่า มีการลักลอบนำไปขายตามเพจออนไลน์และร้านขายยาจนสืบทราบเครือข่ายการลักลอบขายยาและจับกุมผู้กระทำความผิดได้ในที่สุด จึงขอเตือนผู้ประกอบการที่ลักลอบนำยาทรามาดอลไปขายในช่องทางที่ผิดกฎหมาย อย.จะใช้มาตรการทางปกครองในการพักใช้ใบอนุญาตและดำเนินคดีจนถึงที่สุด เพื่อไม่ให้เป็นแบบอย่างในการใช้ใบอนุญาตด้านยาเพื่อทำการขายยาไปใช้ผิดวัตถุประสงค์จนเป็นภัยต่อสังคม
สำหรับการเฝ้าระวังการลักลอบผลิตยาปลอมหรือยาไม่มีทะเบียนตำรับยานั้น ทาง อย. ได้ประสานการทำงานร่วมกับ บก.ปคบ. มาโดยตลอด แต่ยังคงพบปัญหาการลักลอบผลิตอยู่ จึงขอให้ประชาชนช่วยเป็นหูเป็นตา แจ้งเบาะแสแหล่งผลิตหรือขายเพื่อลดการนำยาไปใช้ในทางที่ผิด จนเป็นสาเหตุของการเสพติดยาที่รุนแรงขึ้นตามมา สร้างความเดือดร้อนให้กับผู้ปกครอง คนในชุมชน และสังคม หากผู้ใดพบการลักลอบผลิต นำเข้า ขาย ผลิตภัณฑ์สุขภาพที่ผิดกฎหมาย สามารถแจ้งเบาะแสได้ที่สายด่วน อย. 1556 หรือ อีเมล์ 1556@fda.moph.go.th, หรือ Line: @FDAThai หรือ ตู้ปณ.1556 ปณฝ. กระทรวงสาธารณสุข จ.นนทบุรี 11004 หรือสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดทั่วประเทศ เพื่อจะได้ดำเนินการตามกฎหมายกับผู้กระทำความผิดต่อไป
พล.ต.ท.ณัฐศักดิ์ เชาวนาศัย ผบช.ก. กล่าวว่า ปฏิบัติการทลายเครือข่ายจำหน่ายยาเขียวเหลือง
ยาแก้ไอ รายใหญ่ทั้ง 10 จุด ใน 4 จังหวัดในครั้งนี้ ไม่ใช่เพียงแค่การจับกุมตัวเลขทางสถิติ แต่คือการตัดตอนจุดเริ่มต้นในการทำลายเยาวชนด้วยยาพิษราคาถูกในทุกมิติ ที่เรียกว่า “4x100” โดยในช่วงที่ผ่านมา กระแสการนำผลข้างเคียงจากยา กลุ่มแก้แพ้ แก้ไอ แก้ปวด ไปใช้เพื่อการเสพติดได้แพร่หลายอย่างรวดเร็วและมีอัตราสูงขึ้นในกลุ่มวัยรุ่น ซึ่งถือเป็นภัยร้ายแรงที่ทำให้เกิดอาการมึนเมา นำไปสู่ผลเสียต่อสุขภาพทางกายและจิตใจ
และขอเน้นย้ำเป็นพิเศษว่า ยาแก้ปวดทรามาดอล (Tramadol) นั้น จัดเป็นยาควบคุมพิเศษ การลักลอบจำหน่ายเพื่อใช้ในทางที่ผิด ถือเป็นการลอบวางระเบิดเวลาทางสังคม ทั้งในทางอาชญากรรมและสุขภาพ เจ้าหน้าที่ตำรวจจะกวดขันและบังคับใช้กฎหมายทุกมาตราในการดำเนินคดีกับกลุ่มเครือข่ายเหล่านี้ ไม่ว่าจะเป็นผู้ผลิตยาปลอม ผู้ลักลอบนำยาควบคุมพิเศษมาขาย หรือแม้กระทั่งผู้ที่สวมรอยเป็นเภสัชกร โดยจะดำเนินจับกุมอย่างต่อเนื่อง และดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิดให้ถึงที่สุด ประชาชนทั่วไปหากพบเห็นการกระทำความผิด สามารถแจ้งได้ที่ สายด่วน ปคบ. 1135 หรือเพจ ปคบ.เตือนภัยผู้บริโภค

ยะลา - รวมพลังบูรณะภาพวาดสตรีทอาร์ต 'คิงภูมิพล' แสดงออกถึงความจงรักภักดี ผ่านงานศิลปะ
6
ศิลปวัฒธรรม-บันเทิง

ศาลอาญา สั่งคุก 2 ปีไม่รอลงอาญา "จิรัฏฐ์ ทองสุวรรณ์"อดีตสส.ประชาชน ใช้เอกสารใบสด.43 ปลอม
การเมือง-การเมืองท้องถิ่น
ไออาร์พีซีมอบทุนการศึกษาชุมชนสัมพันธ์ ปี 68 หนุนเยาวชน 198 ทุน จาก 66 ชุมชนรอบพื้นที่อุตสาหกรรม
การศึกษ า
𝗖𝗵𝗮𝗻𝗴 𝗖𝗹𝗮𝘀𝘀𝗶𝗰 𝗖𝗮𝗿 𝗥𝗲𝘃𝗶𝘃𝗮𝗹 𝟮𝟬𝟮𝟱 ปิดฉากประทับใจ ตอกย้ำภารกิจ สนามช้าง เป็นมากกว่าสนามแข่ง









