น.ส.เอ ระบุต่อว่า หลังทราบผลตรวจได้พยายามทวงถามความรับผิดชอบ ซึ่งในตอนแรก น.ส.นิช แม่ค้ารายดังกล่าวรับ ปากจะจัดการให้ โดยส่งเครื่องประดับเพชรจำนวน 9 ชิ้นคืนไปหมดแล้ว แต่ น.ส.นิช ยังไม่ยอมคืนเงินประมาณ 5 แสนกว่าบาท ก่อนจะปิดช่องทางติดต่อและหนีหายไป จึงได้แจ้งความลงบันทึกประจำวันไว้ที่ สน.หนองแขม เมื่อวันที่ 14 ต.ค. จนกระทั่งทราบว่ามีผู้ตกเป็นเหยื่ออีกจำนวนมาก จึงรวมตัวกันมาร้องเรียนที่กองปราบฯ ในวันนี้

"เรามั่นใจเพราะเขาโปรไฟล์ดี ขายแบรนด์เนมญี่ปุ่นมานาน เคยเห็นว่าได้รับรางวัลนักธุรกิจดีเด่นมาก่อน ไม่คิดว่าจะเอาเพชรแล็บมาหลอกขายเป็นเพชรแท้ในราคาที่สูงเกินจริง" หนึ่งในผู้เสียหายระบุ

น.ส.บี อายุ 42 ปี นักธุรกิจด้านอสังหาริมทรัพย์และสื่อเยาวชน  เปิดเผยว่าตน สนใจเพชรอยู่แล้ว เห็น น.ส.นิช ไลฟ์สดขายเครื่องประดับเพชร ตั้งแต่ปลายปี 65 จึงซื้อสะสมมาเรื่อย ช่วงแรกได้สินค้าเครื่องประดับเอาไปตรวจเช็คกับผู้เชี่ยวชาญก็เป็นเพชรแท้ทุกชิ้น ต่อมาปี 66-67 ก็ยังติดตามซื้อเขาอยู่ หยุดซื้อไปบ้างระยะหนึ่ง นอกจากแม่ค้า น.ส.นิช แล้วตนก็ยังซื้อจากแม่ค้าคนอื่นๆ ด้วย ทุกครั้งไม่มีปัญหา มาทราบภายหลังว่าเป็นเพชรแล็บเมื่อ ต.ค.ที่ผ่านมา หลังเห็นลูกค้าขาประจำที่เคยซื้อเพชรผ่านเพจนี้หายหน้าไปบางคน เกิดความสงสัยจึงนำเครื่องประดับทั้งหมดไปตรวจเช็คผู้เชี่ยวชาญระบุเป็นเพชรแล็บ  ซึ่งมูลค่าจะแตกต่างจากเพชรจริงมากว่า 10 เท่า เสียความรู้สึกตรงที่เขาบอกว่าสินค้าเขาเป็นเพชรแท้ธรรม ชาติ เขาจะจัดโปรโมชั่น ปีละ 2-3 ครั้งซื้อสินค้าเครื่องประดับเพชรคืนในราคาที่เราซื้อบวกกำไร 5 เปอร์เซ็น ซึ่งลูกค้าจะรู้สึกเหมือนว่าได้เครื่องประดัยเพชรมาใส่ฟรีๆ เวลาขายคืนยังมีกำไรอีก ผิดกับการไปซื้อตามร้านขายเพชรที่ส่วนใหญ่จะถูกหักเปอร์เซ็นต์